เนปาล 15 ม.ค. – ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารสายการบินเยติ แอร์ไลน์ ของเนปาล พุ่งชนภูเขาขณะพยายามลงจอดที่ท่าอากาศยานในเมืองโพคารา เพิ่มขึ้นเป็น 67 ราย จากจำนวนคนบนเครื่อง 68 ราย
ความคืบหน้าเหตุเครื่องบินโดยสาร รุ่นเอทีอาร์ 72 แบบใบพัด 2 เครื่องยนต์ รุ่น 9 เอ็น เอเอ็นซี (9N ANC) ชนช่องเขาเซติ ที่อยู่ห่างจากท่าอากาศยานโพคาราเพียง 2 กิโลเมตร เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 12.15 น. วันนี้ (15 ม.ค.66) ตามเวลาไทย บนเครื่องมีผู้โดยสาร 68 คน และลูกเรือชาวเนปาล 4 คน ผู้โดยสารเป็นชาวเนปาล 53 คน ชาวต่างชาติ 15 คน ประกอบด้วย ชาวอินเดีย 5 คน ชาวรัสเซีย 4 คน ชาวเกาหลีใต้ 2 คน ชาวออสเตรเลีย ชาวไอร์แลนด์ ชาวอาร์เจนตินา และชาวฝรั่งเศส สัญชาติละ 1 คน
จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ศพจากซากเครื่องบินได้แล้ว 67 ศพ และอาจไม่มีผู้รอดชีวิต เนื่องจากเศษซากเครื่องบินกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่มีการเผยแพร่คลิปเครื่องบินลำที่เกิดเหตุบินต่ำผิดปกติเหนือชุมชน จากนั้นเครื่องบินเอียงอย่างน่ากลัวก่อนตก นับเป็นครั้งแรกที่เครื่องบินเอทีอาร์ 72 ประสบอุบัติเหตุตกในเนปาล และเป็นอุบัติเหตุทางอากาศยานร้ายแรงที่สุดในเนปาล นับตั้งแต่ปี 2535 ที่เครื่องบินแอร์บัส เอ 300 ของสายการบินปากีสถาน อินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ส ประสบเหตุพุ่งชนภูเขาขณะใกล้ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติตริภูวัน ในกรุงกาฐมาณฑุ เสียชีวิตทั้งลำ 167 คน
ด้านนายกรัฐมนตรีปุษปกมล ทาหาล ของเนปาล แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอให้หน่วยงานรัฐ กองกำลังความมั่นคง และท้องถิ่น ใช้ความพยายามช่วยเหลือกู้ภัยอย่างมีประสิทธิภาพ เขาได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีแล้ว
สายการบินเยติ แอร์ไลน์ ที่ประสบเหตุในวันนี้ เป็นสายการบินในประเทศใหญ่อันดับ 2 ของเนปาล รองจากบุดด้าแอร์ สำหรับเครื่องบินเอทีอาร์ 72 ลำที่ประสบเหตุ มีอายุการใช้งานแล้ว 15 ปี เป็นเครื่องบินใบพัด 2 เครื่องยนต์ ที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง โดยสายการบินเยติ แอร์ไลน์ มีเครื่องบินรุ่นนี้จำนวน 6 ลำ
ทั้งนี้ อุบัติเหตุทางอากาศในเนปาลเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากสภาพอากาศสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน และทำให้เกิดภาวะที่อันตราย. – สำนักข่าวไทย