ทำเนียบรัฐบาล 2 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีติดตามประชาชนเดินทางกลับจากท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ใกล้ชิด กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย คงเข้มตรวจรถโดยสารสาธารณะทั้งสภาพรถและพนักงานขับ เรือข้ามเกาะอย่าบรรทุกเกินน้ำหนักจัดชูชีพเพียงพอ ผู้ใช้รถส่วนตัวง่วงอย่าขับแวะจุดพักก่อน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 โดยต่อเนื่องและยินดีที่ได้เห็นคนไทยทั่วประเทศได้กลับมาเฉลิมฉลองและมีความสุขในเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่อีกครั้งหลังจากสถานการณ์โควิด19 คลี่คลาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวและจากภูมิลำเนาเพื่อเตรียมตัวเริ่มทำงานบ้างแล้ว นายกรัฐมนตรีได้มีความห่วงใยประชาชนที่อยู่ในช่วงของการเดินทาง โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละท้องที่ ตำรวจทางหลวง กระทรวงคมนาคม ร่วมกันอำนวยความสะดวกการเดินทางและดูแลความปลอดภัยของประชาชนในทุกพื้นที่ ให้การช่วยเหลือเต็มที่กรณีเกิดเหตุต่างๆ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนที่ขับขี่รถยนต์ส่วนตัว ขอให้เตรียมร่างกายให้พร้อมพักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง ขับขี่รถด้วยความเร็วที่กำหนดปฏิบัติตามกฎจราจร หากมีอาการง่วงหรือเหนื่อยล้าขอให้หยุดพักตามจุดพักรถหรือจุดที่หน่วยงานต่างๆ จัดให้ ไม่ฝืนขับขี่ต่อจนเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดความสูญเสียทั้งตนเองและประชาชนคนอื่นที่ใช้รถใช้ถนน
ทางด้านรถโดยสารสาธารณะ อาทิ รถของบริษัทขนส่ง จำกัด รถร่วมบริการทั้งรถทัวร์ รถตู้โดยสาร ที่กระทรวงคมนาคม โดยกรมขนส่งทางบกได้ดำเนินมาตรการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร/จุดจอด จุด Checking Point และจุด Rest Area รวม 209 จุด ทั่วประเทศ นายกรัฐมนตรีขอให้ยังคงความเข้มงวดในตรวจ ให้มีมาตรการดำเนินการทันทีเมื่อพบข้อบกพร่องไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนรถ เปลี่ยนพนักงานขับ ให้มีมาตรการลงโทษหากพบการฝ่าฝืน ผู้ให้บริการรถสาธารณะต้องให้ความปลอดภัยสูงสุดกับผู้โดยสาร
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังมีความห่วงใยในส่วนการโดยสารทางเรือ เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่หลายเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั้งภาคใต้ ภาคตะวันออกมีการจัดงานและมีนักท่องเที่ยวเดินทางทางเรือไปเข้าร่วมจำนวนมาก ขอให้ทั้งหน่วยงานและผู้ประกอบการให้บริการเรือร่วมกันดูแลความปลอดภัยทั้งการไม่บรรทุกเกินน้ำหนัก การมีเสื้อชูชีพที่เพียงพอ กำชับให้ผู้โดยสารสวมชูชีพตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย