กรุงเทพฯ 5 พ.ค. – สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทถึงคุณค่าของวันวิสาขบูชา สมควรที่ชาวไทยจะได้สืบสานมาสู่ตน ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และโลกนี้ให้ไพบูลย์ยิ่งขึ้นไป
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาท เนื่องในวันวิสาขบูชา วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พุทธศักราช 2560 โดยมีใจความว่า
“ดิถีวิสาขบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง สมเด็จพระบรมศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา เสด็จประสูติมาในที่เจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า และเสด็จดับขันธปรินิพพาน ล้วนเป็นไปในดิถีเดือนเพ็ญวิสาขะต่างปี หากใคร่ครวญให้ดียิ่งขึ้น ดิถีอัศจรรย์นี้บอกธรรมแห่งความเป็นพุทธะได้หลายสถาน ด้วยการประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ คือการเกิดพระกายมนุษย์ของพระโพธิสัตว์ ผู้จะทรงดับทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิด ส่วนการตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์องค์นั้นก็คือการเกิดบุคคลผู้รู้แจ้ง พ้นความเป็นสามัญมนุษย์ สู่ความเป็นสัมมาสัมพุทธ ครั้นทรงกระจ่างเรื่องกลไลของทุกข์แล้ว มิได้ทรงเก็บงำไว้เพียงลำพังพระองค์ แต่ยังทรงพระกรุณาชี้ทางที่จะพ้นวงจรทุกข์อย่างถาวรแก่พหูชนเรื่อยไป ตราบจนดับขันธปรินิพพาน แม้การดำรงขันธ์ของพระองค์จะดับสูญ แต่ว่าพระพุทธธรรมอันเกิดปรากฏแล้วยังดำรงอยู่เป็นศาสดา เกิดเป็นพระศาสนาตราบเท่าทุกวันนี้
คุณค่าของวันวิสาขบูชา นอกจากเตือนให้สำนึกในพระพุทธคุณ ยังชวนให้เกิดความสลดสังเวชว่า ความเกิดและความดับนั้น มีขึ้นทุกขณะและเป็นของคู่กัน แม้ในความเกิดพระรูปพระโฉมของพระศาสดา ก็ยังมีความดับไปตามกฎสามัญ ความระลึกชอบได้เช่นนี้ ย่อมสามารถโน้มน้าวพุทธบริษัทผู้เกิดมาแล้วบนโลกนี้ให้เพียรเจริญรอยตามบนอริยมรรค จนสู่จุดหมายที่เหนือความเกิดและดับ ด้วยการละความหลงจับยึดในสิ่งมายาทั้งปวง คลายความมัวเมา ยึดถือตัวยึดถือตนลง เว้นวางการแบ่งเขาแบ่งเรา อันจะช่วยยุติความเบียดเบียน ก้าวร้าว บาดหมาง และชิงชังกัน เมื่อสมาชิกในสังคมใดทำได้เช่นนั้น ความเมตตากรุณาอย่างยุติธรรมย่อมบังเกิด สรรพชีวิตในสังคมนั้นย่อมอิงอาศัยกันได้อย่างปราศจากเวรภัย สันติสุขที่แท้ย่อมปรากฏให้ประจักษ์เห็นจริง ไม่ใช่เพียงแค่อุดมการณ์
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงฟื้นฟูประเพณีวิสาขบูชาไว้ด้วยดีแล้วบนแผ่นดินไทย สมควรที่ชาวไทยจะได้สืบสานพระราชศรัทธา น้อมนำคุณค่าของวันสำคัญนี้มาสู่ตน ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และโลกนี้ให้ไพบูลย์ยิ่งขึ้นไป ถ้าท่านทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ในพระสัทธรรมของสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อใด ความผาสุกสิริสวัสดิ์ทุกประการย่อมบังเกิดขึ้นเมื่อนั้น” .-สำนักข่าวไทย