“ศุภชัย” ชี้ 11 ประเด็นที่ สนช.สงสัยในกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ไม่มีนัยทางการเมือง

กกต. 5 พ.ค.-ประธาน กกต. เผย 11 ประเด็นที่ สนช.สงสัยในกฎหมายเลือกตั้ง  ส.ส. ไม่มีนัยทางการเมือง  ย้ำ กกต.พร้อมปฎบัติตามกฎหมาย


นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 เป็นประธาน ว่า กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ที่ กกต.ได้ร่างและเสนอไปให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นั้น สนช.ได้มีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ประมาณ 11 ประเด็น ประกอบด้วย 1.การกำหนดวันรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตที่กฎหมายกำหนดว่าให้กำหนดภายใน 25 วันหลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ทาง สนช.ได้สงสัยว่าระยะเวลาดังกล่าวจะทำให้พรรคการเมืองเตรียมตัวในการส่งผู้สมัครทันหรือไม่ ซึ่ง กกต.ให้ความมั่นใจว่าพรรคการเมืองจะสามารถดำเนินการได้ทัน เพราะเชื่อว่านอกจากจะเป็นกระบวนการที่พรรคเร่งดำเนินการแล้ว คาดว่ากฎหมายพรรคการเมืองจะเสร็จก่อนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ดังนั้นจึงน่าจะมีเวลาให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินการได้

นายศุภชัย กล่าวว่า 2.การกำหนดให้การจัดการเลือกตั้งไม่อยู่ภายใต้ศาลปกครอง ซึ่ง กกต.ได้ชี้แจงว่าในกรณีนี้ กกต.ได้ขอเฉพาะขั้นตอนและกระบวนการในช่วงของการเลือกตั้ง เพราะในช่วงดังกล่าว กกต.ต้องออกกฎ ระเบียบ และคำสั่งต่าง ๆ มาก ดังนั้นหากมีผู้ไปร้องต่อศาลและศาลสั่งให้ชะลอ ก็จะกระทบต่อกระบวนการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งสะดุด 3.การลดจำนวนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) จากเดิม 9 คน มาเป็นไม่ต่ำ 5 คน รวมถึงกรณี กปน.มาปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบ หรือไม่มาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการลดจำนวน กปน.เนื่องจากในอนาคต จะมีบัตรเลือกตั้งเพียง 1 ใบ และหีบเลือกตั้ง 1 ใบ ดังนั้นจึงเห็นว่าจำนวนคนที่ลดลงน่าจะเพียงพอ ประกอบกับสามารถประหยัดงบประมาณได้ด้วย ส่วนกรณี กปน.มาไม่ครบ ได้มีการแก้ปัญหาไว้แล้ว และในอนาคต กกต.ได้มีการอบรม กปน.มืออาชีพ ซึ่งจะมีการขึ้นทะเบียน กปน.ที่ผ่านการอบรมไว้ หากเกิดกรณีมาไม่ครบ จะให้ผู้ที่มีคุณสมบัติในลำดับถัดไปมาดำเนินการ อย่างไรก็ตาม กกต.เชื่อว่าหากมีการแต่งตั้งบุคคลเป็น กปน.แล้ว ผู้นั้นก็จะมาทำหน้าที่ หากไม่มา จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มีความผิดตามกฎหมาย            


นายศุภชัย กล่าวอีกว่า 4.การยื่นใบสมัคร ส.ส.ทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่ สนช.กังวลเกี่ยวกับเวลาในการยื่นสมัครที่อาจจะมีการแก้ไขได้ ซึ่งในเรื่องนี้ เราได้ชี้แจงว่าการเพิ่มวิธีรับสมัครดังกล่าวเพื่อเป็นการแก้ปัญหาการรับสมัครไม่ได้ เช่นกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อการรับสมัคร ส.ส.เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่มีการปิดล้อมสถานที่รับสมัคร 5.กรณีเกิดเหตุจำเป็นเฉพาะพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้ง จะมีผลกระทบต่อการกำหนดวันเลือกตั้งหรือไม่ เรื่องดังกล่าวจะแก้ปัญหาโดยการเลื่อนเฉพาะเขตที่มีปัญหาเท่านั้น 6.กรณีการให้โอกาสพรรคการเมืองเปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัครได้กรณีเสียชีวิตและขาดคุณสมบัติ ต้องดำเนินการก่อนการปิดรับสมัคร ในเรื่องนี้ กกต.ได้ชี้แจงว่าในกรณีดังกล่าว พรรคการเมืองสามารถเปลี่ยนตัวผู้สมัครได้ แต่ถ้าพรรคการเมืองส่งผู้สมัครที่มีคุณสมบัติไม่ครบ หัวหน้าพรรคต้องรับผิดชอบฐานเป็นผู้รับรองและให้ข้อมูลเท็จ รวมถึงผู้สมัครด้วย

นายศุภชัย กล่าวว่า 7.การยื่นคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อศาลฎีกาในกรณีคนไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง สามารถให้ศาลชั้นต้นพิจารณาแทนได้ ในเรื่องดังกล่าวเป็นลักษณะเช่นเดียวกับอดีตที่ผ่านมาว่าเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ใด สามารถร้องต่อศาลในพื้นที่นั้นเพื่อพิจารณาแทน แล้วส่งเรื่องให้ศาลฎีกาเป็นผู้ตัดสิน 8.เรื่องการรับรองผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการที่ได้มีการแก้ไข จากการที่จะต้องประกาศผลการเลือกตั้งร้อยละ 95 มาเป็นร้อยละ 90 แต่ไม่เกินร้อยละ 95 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานำมาฟ้องร้องกรณีการนับยังไม่เสร็จสิ้น เพราะเมื่อ กกต.เห็นว่าคะแนนอยู่ในระดับที่สามารถประกาศผลได้ แต่ไม่ต้องรอให้ถึงร้อยละ 95

นายศุภชัย กล่าวว่า 9.กรณีก่อนประกาศผล หากพบผู้สมัครรู้เห็น หรือมีส่วนกับการกระทำที่ไม่สุจริต กกต.สามารถระงับสิทธิ์การเป็นผู้สมัครได้ในเวลา 1 ปี เรื่องนี้เป็นการกำหนดให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 225 วรรค สอง 10.การกำหนดให้ผู้สมัคร ส.ส.ที่ กกต.พบว่าทุจริตการเลือกตั้ง ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ์และสั่งให้เลือกตั้งใหม่ ผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทั้งหมด ส่วนการเรียกคืนเงินประจำตำแหน่งและอื่น ๆ เป็นเรื่องของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ 11.การเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งและการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งแตกต่างกันอย่างไร ในเรื่องนี้ กกต.ได้ชี้แจงว่ากรณีการเพิกถอนสิทธิ์การสมัครรับเลือกตั้ง ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ตลอดชีวิต แต่สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ แต่กรณีการถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งจะมีระยะเวลา 5-10 ปี หากพ้นโทษแล้ว สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้


“การไปชี้แจงครั้งนี้ของ กกต.เป็นการไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งหาก สนช.ไม่เห็นด้วย จะแก้ไขหรือจะใช้ร่างของ กรธ. ทาง กกต.ก็พร้อมปฏิบัติ กฎหมายออกมาอย่างไร ในฐานะผู้ปฏิบัติ ก็พร้อมจะดำเนินการ ซึ่งการชี้แจงครั้งนี้ น่าจะเป็นการเตรียมตัวของ สนช.โดยการเอาร่างของ กกต.มาศึกษาก่อน เมื่อ กรธ.เสนอร่างมาแล้ว ก็จะเสนอร่างได้เร็ว เนื่องจากขั้นตอนการพิจารณากฎหมายลูกมีจำนวน 10 ฉบับ แต่มีเวลาพิจารณาแค่ 240 วัน ไม่น่าจะมีนัยหรือสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอน” นายศุภชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

ข่าวแนะนำ

เหงาและเศร้า ขาดครูใหญ่สุวิทย์ และครูโดม

บรรยากาศโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตืองอ จ.นราธิวาส วันที่ไม่มีครูใหญ่สุวิทย์ และครูโดม ดูเงียบเหงา เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

นายกฯ ลงพื้นที่ยะลา พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ปลื้มต้อนรับอบอุ่น

นายกฯ ขึ้น ฮ. ลงยะลา ทักทายเป็นภาษามลายู พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ปลื้มต้อนรับอบอุ่น บอกมีตรงไหนเดือดร้อน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ลั่นอยู่ศาสนาใด-เชื้อชาติใด คนไทยด้วยกัน ขอรักสามัคคีกัน

“ปอ ตนุภัทร” บอกอยากให้ทำเหมือนเหตุการณ์จริง “แตงโม” ตกเรือ

“ปอ ตนุภัทร” ขอบคุณจำลองเหตุการณ์ “แตงโม” ตกเรือ แต่ทำทั้งทีอยากให้ทำเหมือนเหตุการณ์จริง ด้าน “แซน” เชื่อมีเจตนาดิสเครดิตตน ซัดไม่ได้จบทนาย อาจไม่รู้ข้อกฎหมาย แนะให้เรียนเนติก่อน

นายกฯไปนราธิวาส

นายกฯ นำคณะถึงนราธิวาส สวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ”

“นายกฯ อิ๊งค์” ถึงนราธิวาสสวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ” สีชมพูบานเย็น หวานฉ่ำ ถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนชาวนราธิวาส ที่มีความรัก สามัคคี ประสานความสัมพันธ์บนวิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดนราธิวาส