ผบ.ตร.แจงคดีทุนจีนสีเทา ทำตรงไปตรงมา ไม่กลัวอิทธิพล

กรุงเทพฯ 11 ธ.ค. – ผบ.ตร.แจงทุกประเด็นคดีทุนจีนสีเทา ยืนยันทำตรงไปตรงมา ไม่กลัวอิทธิพล แต่ตำรวจต้องสั่งคดีตามพยานหลักฐาน โดยทำงานร่วมทั้ง ป.ป.ส. ปปง. และอัยการ


จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ถึงความคืบหน้าการเดินหน้าแฉกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย “วิ่ง สู้ ฟัด” ตำรวจทำคดี “ตู้ห่าว” ตั้งข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ไร้ข้อหา “ฟอกเงิน” พร้อมตั้งคำถามถึง ผบ.ตร. ว่าอาจจะกลัวอิทธิพล “ตู้ห่าว” นั้น

วันที่ 11 ธันวาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า นายชูวิทย์ อาจจะมีการเข้าใจผิดในหลายเรื่องที่อาจจะทำให้ไม่มั่นใจในตำรวจขึ้นมา เริ่มต้นคดีผับจินหลิง เกิดจาก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ต้องให้เครดิตท่าน เนื่องจากมีการสืบทางลึกมา และได้ใช้กำลังที่ไม่เกี่ยวกับท้องที่ เพื่อไม่ให้มีการข่าวรั่ว โดยได้เข้าไปดำเนินการเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก ที่นายชูวิทย์ บอกว่า ตรวจปัสสาวะเหลือ 6 คน ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เข้าใจกันผิด ทั้งนี้ ได้มีการตรวจสารเสพติดเบื้องต้นเป็นผลบวก 104 คน ซึ่งได้ส่งทั้งหมดไปที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ เพื่อตรวจยืนยันผล เพราะตามกฎหมายต้องยืนยันผล ทางโรงพยาบาลได้ยืนยันผลมา 77 ราย รับสารภาพ 66 ราย ก็ได้ส่งฟ้องศาล ปฏิเสธ 11 ราย โดยมี 1 ราย ได้ประกันตัว และหลบหนี 1 ราย ซึ่งทั้งหมด 76 ราย อยู่ระหว่างการควบคุมตัวของทางการ ส่วนใหญ่ที่เป็นคนจีนต้องรอส่งกลับเมื่อคดีเสร็จสิ้น เป็นความคืบหน้าว่าได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งทางผู้บัญชาการก็รู้รายละเอียดดี จึงเป็นสาเหตุให้ผมได้แต่งตั้ง


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทันทีที่คดีเกิดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ทาง พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ไปร่วมในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งท่านก็เพิ่งมาใหม่ได้เพียงไม่กี่วัน ก็ได้แต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน โดยให้รองผู้บังคับการที่ดูแลด้านสืบสวนสอบสวนนครบาล 6 เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ทาง ผบก.น.6 ไม่ได้ให้ สน.ยานนาวา ทำโดยลำพัง ต่อมาผมเห็นว่าคดีนี้เป็นที่น่าสนใจ และเป็นคดีที่อาจจะมีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับคดีต่างๆ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงาน โดยมี ผบช.น. เป็นหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวน โดยผมได้เซ็นคำสั่งเอง นอกจากนั้นได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นหัวหน้ากำกับดูแลงานสืบสวนสอบสวนด้วย ซึ่งท่านสามารถมีอำนาจเต็มแทนผมได้อยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถ้าคุณชูวิทย์ไปพูดแล้วทำให้คนอื่นเข้าใจคลาดเคลื่อน ผมจะมากำกับดูแลใกล้ชิดด้วยตนเอง เพื่อจะได้ตัดปัญหาความคลางแคลงใจในเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งผมก็มั่นใจว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีมวยล้มต้มคนดู

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้รายงานความคืบหน้ากับผมเป็นระยะๆ เบื้องต้นอย่างที่ทุกท่านทราบว่า คดีนี้สามารถจับกุมขยายจากคดีเสพมาเป็นคดีครอบครองได้หลายคน ต่อมาได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาที่เปิดสถานบริการด้วย จากนั้นได้ขยายผลต่อจนเป็นคดีสมคบเรื่องยาเสพติด ออกหมายจับและอยู่ในความควบคุมตัวของตำรวจ 9 ราย รวมนายตู้ห่าว ซึ่งพยานหลักฐานในตอนนี้เป็นเจ้าของกิจการ ทุกคนยังอยู่ในเรือนจำ ศาลได้พิจารณาหลักฐานของตำรวจ โดยทาง ผบช.น.ไปขออนุมัติหมายจับ ซึ่งศาลก็ได้อนุมัติ เป็นผลการปฏิบัติเบื้องต้นที่มั่นใจได้

ผบ.ตร. กล่าวว่า หากถามว่าทำไมยังไม่ดำเนินคดีฟอกเงิน ต้องชี้แจงว่า คดียาเสพติดข้อหาสมคบตาม พ.ร.บ.มาตรการ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สามารถยึดและอายัดทรัพย์สินได้ครอบคลุมอยู่แล้ว ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ซึ่งสะดวก รวดเร็ว ครอบคลุม เมื่อยึดอายัดทรัพย์สินแล้ว ภาระการพิสูจน์ทรัพย์สินของนายตู้ห่าวทั้งหมด นายตู้ห่าวจะต้องมาแสดงว่าได้ทรัพย์สินมาได้อย่างไร ถูกต้องหรือไม่อย่างไร ส่วน ปปง.ก็ไม่ได้ทิ้ง ก็จะตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินที่ถ่ายทอดไปยังบุคคลอื่นอย่างไร โดยได้ทำงานคู่ขนานกันไป พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่ ปปง. มาร่วมตรวจสอบด้วย ทั้งนี้ กรณีที่มีผู้จัดหาผลประโยชน์ รับเงิน โอนเงิน หรือฟอกเงิน ไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เรามีการแจ้งแน่นอน แต่จะใช้กฎหมายเน้นปราบปราม ตัดวงจร ซึ่งขอระยะเวลาในการรวบรวม


ส่วนทำไมถึงไม่ใช่คดีนอกราชอาณาจักร และอัยการสูงสุดยังไม่เข้ามาควบคุมการสอบสวน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้จากพยานหลักฐานยังเป็นคดีในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นคดีที่ตำรวจต้องเป็นผู้ดำเนินการ แต่เราไม่ได้ละเลยความสำคัญของท่านอัยการ เพราะเป็นคดีสำคัญ เป็นคดีที่จะทำอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เราได้ขอความร่วมมือไปทางสำนักงานอัยการคดียาเสพติด เป็นการประสานงานให้ส่วนราชการ ต้องหารืออยู่แล้ว เพราะต้องส่งสำนวนคดีทั้งหมดให้พนักงานอัยการพิจารณาดำเนินคดี ทั้งหมดเป็นความคืบหน้า ซึ่งจริงๆ แล้วคดียาเสพติดทั้งหมด หรือคดีที่เกี่ยวข้องต่างๆ เป็นไปตามนโยบายที่ผมได้มีนโยบายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 แล้ว ทั้งเรื่องยาเสพติดต่างๆ ไม่ใช่จะดูที่รายนี้เพียงรายเดียว จะดูทุกมิติ ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ทางนายกรัฐมนตรีได้กำชับคดีจินหลิง ทุนจีน ให้ทำงานตรงไปตรงมา และให้นำเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูเป็นจุดที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาป้องกันปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ เพื่อให้ชาวบ้านในทุกพื้นที่เกิดความสบายใจ มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งตำรวจได้ร่วมมือกับฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และฝ่ายท้องถิ่น ทำหนองบัวลำภูโมเดล โดยทำไปพร้อมๆ กันทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ซึ่งเดือนหน้าจะสำรวจความพึงพอใจของประชาชน จำนวน 1 ล้านกลุ่มตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพว่า ขณะนี้ชาวบ้านมองปัญหายาเสพติดว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐแก้ไขปัญหาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“เราทำอย่างตรงไปตรงมา ผมขอยืนยันให้มั่นใจได้ และขอบอกนายชูวิทย์ว่า ถ้าท่านต้องการที่จะให้ข้อมูล ผมยินดี ท่านจะนำมาให้ผมโดยตรง หรือจะไปคุยหารือกับ ผบช.น. ก็ได้ ถ้าท่านสบายใจ หรือจะรอง ผบ.ตร. ทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ก็ได้ ผมยินดี ท่านติดต่อผมได้โดยตรง ผมยินดีจะรับข้อมูล ตอนนี้ผมก็ดูแลอย่างใกล้ชิด” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวยืนยัน

เมื่อถามถึงกระบวนการแจ้งข้อหาฟอกเงินจะล่าช้าหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้เริ่มต้นจากคดีเสพ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 โดยได้ขอออกหมายจับช่วงประมาณวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2565 ใช้เวลาเพียง 1-2 สัปดาห์ ในเรื่องนี้ยังต้องพิจารณาเรื่องเส้นทางการเงินและอะไรต่างๆ อีกเยอะ รวมถึงการสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งได้มีการสอบพยานไปจำนวนมากแล้ว ผมเรียนตรงๆ ว่า ผบช.น.ท่านนี้ มีบุคลิกเงียบ ท่านอาจจะไม่ชอบให้ข่าว แต่ผมได้สั่งการแล้วว่า ต่อไปขอให้รายงานความคืบหน้าทางคดีให้สื่อมวลชนได้รับทราบผ่านไปยังพี่น้องประชาชนให้มีความคืบหน้าเป็นระยะๆ เพื่อจะได้เกิดความสบายใจว่า ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมาและมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ประเด็นใดที่มีความสงสัยฝากแนะนำมาก็จะไปสอบปากคำให้ครบ จนเสร็จสิ้นกระบวนข้อสงสัยต่างๆ จริงๆ แล้วตำรวจพยายามทำอย่างเต็มที่ ตัวผมเองในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผมก็ต้องดูในภาพรวม ผมไม่ได้มีเพียงคดีเดียว ตอนนี้ได้โฟกัสไปที่ภาพรวมของการแก้ไขปัญหายาเสพติดในมิติของการป้องกันปราบปรามและบำบัด ที่จะเข้าไปดูแลในภาพรวมของแต่ละชุมชน และอยู่ระหว่างร่วมกับอัยการแก้ปัญหาเรื่องปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ ซึ่งทุกคนคงทราบว่า ตัวการใหญ่ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ เราก็แก้ไป ส่วนในประเทศอยู่ระหว่างการร่าง พ.ร.ก.ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ เพื่อเข้าสู่ ครม.ให้ได้โดยเร็ว ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาบัญชีม้า ซิมม้า เพื่อให้การโอนเงินที่อาจจะถูกหลอกลวงจากคนร้ายทำได้ยากขึ้น รวมถึงมีการยกระดับการทำงานของตำรวจในการบริการบนสถานีตำรวจและนอกสถานีตำรวจ ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้ มีการดำเนินการในหลายเรื่อง รวมถึงคดีนี้ ไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญ ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.ท.ธิติ ได้รายงานความคืบหน้ากับผมมาโดยตลอด แต่ต่อไปนี้เพื่อความสบายใจ ผมจะเข้ามากำกับดูแลให้ใกล้ชิด และหากมีข่าวก็อาจจะพูดเอง หรือมอบให้คนอื่นพูดบ้าง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ ได้ตั้งคำถามถึง ผบ.ตร.ว่า เกรงกลัวอิทธิพลของนายตู้ห่าวหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ผมเห็นนายชูวิทย์ไว้ใจรอง ผบ.ตร.ทั้ง 2 ท่าน ผมก็คิดว่าเพียงพอแล้ว แต่ตอนนี้ท่านต้องการให้ผมลงมา ท่านเรียกร้อง ผมก็จะลงมา เพื่อให้เกิดความสบายใจ จริงๆ ผมก็ดูอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้รายงานความคืบหน้าเป็นระยะๆ โดยที่ไม่ได้เป็นข่าว แต่ตอนนี้ก็อาจจะต้องออกข่าวบ้าง ซึ่งจะเน้นย้ำให้ ผบช.น.ให้ข่าวเป็นระยะๆ ตามความคืบหน้า ส่วนตัวผมมั่นใจคดีและหลักฐาน ไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน

ถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ ระบุว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่มีอำนาจ เปรียบเหมือนยักษ์ไม่มีกระบองนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงตามที่นายชูวิทย์เข้าใจ ทุกคดีที่ทำทั่วประเทศ รอง ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวนทำแทน ผบ.ตร.ได้อยู่แล้ว รอง ผบ.ตร.ทุกท่าน ผมมอบอำนาจไปแล้ว ท่านทำได้อยู่แล้วทุกคดี คดีนี้ถือเป็นคดีแรกด้วยซ้ำของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ผมยกระดับให้ ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ปกติในคดีสำคัญใหญ่ๆ จะเป็นแค่รองผู้การ หรือรองผู้บัญชาการ ซึ่งผมมองว่า ผบช.น.ทราบปัญหาตั้งแต่ต้น ได้เข้าไปตรวจค้นจับกุมด้วยตนเอง ท่านรู้มากที่สุด ท่านแสดงให้เห็นแล้วว่าทราบข้อมูลเชิงลึก จึงไปจับกุมโดยที่ไม่บอกท้องที่ ท่านไม่มั่นใจใคร ท่านไปทำเอง เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องให้ความไว้วางใจ ผบช.น. อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับสั่งการมาให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา และรอบคอบ รวดเร็ว ซึ่งคงไม่มีอิทธิพลใดๆ ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวได้อยู่แล้ว ผมขอยืนยัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ