ทำเนียบรัฐบาล 27 พ.ย.- “ทิพานัน” ชวน “SMEs” บุกตลาดสินค้าออนไลน์ไต้หวัน ผ่านแพลตฟอร์ม PChome และ PINKOI เพิ่มโอกาสสร้างรายได้และต่อยอดส่งออกสินค้า ย้ำ “พล.อ.ประยุทธ์” สนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโอกาสของผู้ประกอบการขนาดกลางหรือขนาดย่อม (SMEs) ไทยใช้ช่องทางออนไลน์ขายสินค้าไปยังต่างประเทศว่าล่าสุดกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้ทำการสำรวจโอกาสลู่ทางการส่งออกให้กับสินค้าไทยเข้าสู่ไต้หวันผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ที่กำลังเติบโตและได้รับความนิยมในไต้หวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ขายสามารถใช้แพลตฟอร์มพีซีโฮม (PChome) และพินคอย(PINKOI) ที่มีสาขาสามารถติดต่อในได้ประเทศไทย สะดวกสำหรับผู้ประกอบการต่างชาติในการเปิดร้านและรับจ่ายเงินค่าสินค้า เป็นแพลตฟอร์มที่สินค้าไทยเป็นสินค้าต่างชาติประเทศที่ 2 ที่ได้รับความนิยมรองจากญี่ปุ่น ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการทดลองตลาดก่อนในระยะที่ยังไม่มีผู้นำเข้า
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับแพลตฟอร์ม PChome Thai Shopping นั้นเป็นโอกาสที่ดีมากเพราะกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ประสานเปิดร้าน TOPTHAI เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าไทยไปไต้หวัน และยังมีแผนขยายธุรกิจโดยคัดเลือกสินค้าที่ได้รับความนิยมในPChome Thai Shopping มาวางจำหน่ายใน PChome 24h ซึ่งมีฐานลูกค้าที่ใหญ่กว่า โดยร้อยละ 98 ของรายได้ของ PChome มาจาก PChome 24h และได้เริ่มนำสินค้าแบรนด์ไทยเข้ามาวางจำหน่ายแล้ว
ที่ผ่านมาทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เปิดร้าน TOPTHAI ขึ้นใน PChome Thai Shopping เพื่อเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าจากไทยไปยังไต้หวันได้โดยตรง และทางแพลตฟอร์มก็มีนโยบายที่จะจัดซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการไทยโดยตรงและจะเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคไต้หวันโดยตรงด้วย และหากเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก PChome Thai ก็จะจัดซื้อเป็นล็อตใหญ่มาเก็บไว้ในคลังสินค้าและส่งให้ลูกค้าเมื่อมีการสั่งซื้อ นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม PINKOI ที่เน้นงานฝีมือ งานหัตถกรรม ลูกค้าบนแพลตฟอร์มนี้เป็นคนรุ่นใหม่ที่นิยมสินค้ามีดีไซน์ ปัจจุบันมีสินค้าไทยวางขายบน PINKOI กว่า3,600 รายการแล้ว
“การผลักดันโดยรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เข้าถึงลูกค้าในต่างประเทศมากขึ้น โดยการบุกตลาดการค้าขายออนไลน์แบบข้ามพรมแดน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับสินค้าไทยในการขยายตลาดได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น โดยผู้ประกอบการ SME ไทยสามารถเข้าร่วมโครงการร้านค้า TOPTHAI กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่จะช่วยสร้างโอกาสในการขายที่เพิ่มขึ้นให้ผู้ประกอบการและยังช่วยผลักดันให้สินค้าเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างมีมาตรฐาน ซึ่งในขณะนี้ TOPTHAI อยู่บนแพลตฟอร์มต่างชาติแล้วถึง7 แพลตฟอร์ม e-commerce ชั้นนำ คือ Amazon Tmall Bigbasket Klangthai Blibli PChomeThai และ Shopee สำหรับตลาดสินค้าใน 9 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน อินเดียกัมพูชา อินโดนีเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์” น.ส.ทิพานัน กล่าว.-สำนักข่าวไทย