กรุงมะนิลา 29 เม.ย.- ที่ประชุมแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ3 ฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย หนุนการสร้างความเชื่อมโยงสาธารณูปโภคพื้นฐาน การสร้างถนน ท่าเรือ รถไฟ เน้นระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก -ตะวันออก ที่สอดคล้องกับอีอีซี
“ชาตรี แสงเพ็ง” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 30 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 28-30 เมษายน 2560 ณ กรุงมะนิลา สาธาณรัฐฟิลิปปินส์ รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการเข้าร่วมการประชุมแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ3 ฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย (IMT-GT) ว่า มีการหารือเรื่องของความเชื่อมโยงระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านและจะยึดโยงไปยังประชาคมโลกอื่น ๆ ทั้งเรื่องกายภาพ สาธารณูปโภคพื้นฐาน และการเดินทางไปมาหาสู่กันทางกายภาพ เช่นรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูงถนน ทางเรือ ท่าเรือ ท่าเรือเฟอร์รี่ ซึ่งไทยโดยกระทรวงคมนาคม ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวมาตลอด และครั้งนี้ได้ทำแผนงานมานำเสนอ โดยจะเน้นในเรื่องระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก -ตะวันออก ที่สอดคล้องกับอีอีซี และระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ เพื่อเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องเหล่านี้ต้องวางแผนไว้ เพราะจำเป็นต้องใช้เวลาและงบประมาณในการดำเนินการ แต่จะทำได้สำเร็จก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนด้วย
“ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาด้านความเชื่อมโยงโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาด้านการอำนวยความสะดวกการพัฒนาด้านนวัตกรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน ในการพัฒนาด้านความเชื่อมโยงโครงข่าย โครงสร้างพื้นฐานนั่น ควรเร่งหารือทางเทคนิคเพื่อก่อสร้างการข้ามสะพานแม่น้ำโกลกแห่งใหม่ที่ตากใบ-เปิงกาลันกุโบร์ และสะพานแห่งที่ 2 ที่รันเตาปันยัง-สุไหงโกลก เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจชายแดนไทย-มาเลเซียด้านตะวันออก โดยมีพื้นที่การพัฒนาตามกรอบแนวคิดเมืองต้นแบบ3 เหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะเชื่อมโยงพื้นที่พัฒนาฝั่งทะเลตะวันออกของมาเลเซีย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องเร่งรัดการอำนวยความสะดวกให้ก้าวหน้าทุกด้าน ทั้งด่านศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง การพัฒนาด้านนวัตกรรม การใช้ความคิดสร้างสรรค์ จะต้องสนับสนุนการพัฒนาด้านนี้ เพื่อเป็นปัจจัยปรับเปลี่ยนในทุกมิติ และควรต่อยอดศักยภาพด้านการค้า อิเล็กทรอนิกส์ใน 3 ประเทศนี้ โดยเชื่อมโยงโครงข่าย เช่น การค้าเสรีดิจิทัลข้ามแดน สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง3 ประเทศ ได้ร่วมมือที่จะพัฒนาเมืองสีเขียว ซึ่งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เป็นกลไก3 ประสานที่จะทำเรื่องเหล่านี้ให้ประสบความสำเร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุม เมื่อเวลา 02.00 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และคณะรัฐมนตรี อาทิ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินกลับถึงทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) โดย นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย