พ่อเผยลูกเขยชาวเกาหลี จะเผาร่างลูกสาวก่อนนำอัฐิกลับไทย

อุดรธานี 30 ธ.ค. – ญาติ น.ส.จงลักษณ์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ที่เกาหลีใต้ เผยให้ลูกเขยชาวเกาหลี ดำเนินการเรื่องศพลูกสาว ก่อนเผานำอัฐิกลับไทย

จากกรณีเครื่องบินโดยสารสายการบิน Jeju Air เที่ยวบินที่ 7C 2216 มีผู้โดยสารทั้งหมด 175 ราย ลูกเรือ 6 ราย รวม 181 ราย เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปสนามบินนานาชาติมูอัน ในจังหวัดชอลลาใต้ เกาหลีใต้ แต่ลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้นทำให้เครื่องบินระเบิด มีผู้โดยสารเสียชีวิต 179 ราย รอดชีวิต 2 ราย มีชาวไทยเสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี ชาวอุดรธานี และ น.ส.สิรินธร จะอื่อ หรือ “เหมย” อายุ 22 ปี ชาวเชียงราย สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับครอบครัวและญาติพี่น้อง ที่ต้องสูญเสียคนที่รักไป

วันนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้าน น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พบญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ที่รอฟังข่าวจากเกาหลีว่าจะดำเนินการนำร่าง น.ส.จงลักษ์ โดยมี น.ส.พรพิมล อัญชลี ปลัดอำเภอหนองวัวซอ คอยประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ

นายบุญช่วย เล่าว่า ตอนแรกอยากนำศพลูกมาทำพิธีทางศาสนาที่บ้าน แต่เมื่อคืนนี้ แฟนชาวเกาหลีของลูกสาว โทรศัพท์มาหา โดยมีล่ามแปลให้ฟังว่า ลูกสาวจดทะเบียนสมรสกับแฟนชาวเกาหลี ถือว่าเป็นชาวเกาหลีแล้ว แฟนชาวเกาหลีจะทำให้ดีที่สุด จะไปรับศพวันพรุ่งนี้ และจะนำไปทำพิธีฌาปนกิจศพให้เรียบร้อย ก่อนจะนำเข้าอัฐิ น.ส.จงลักษ์ กลับมาไทย แต่ไม่รู้ว่าจะนำอัฐิกลับมาวันไหน ซึ่งตนได้ฟังแล้วก็ได้ปรึกษาญาติพี่น้อง ต่างก็เห็นดีด้วย จึงให้แฟนชาวเกาหลีเป็นคนจัดการทุกอย่าง

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายวิกิจชัย แซ่เจีย ผู้จัดการ ธอส.เขตอุดรธานี นายปวริศ บุญรัตน์ ผู้จัดการ ธอส .สาขาอุดรธานี และ น.ส.สุภาพร โลมินทร์ ผู้จัดการ ธอส.สาขาเซ็นทรัล อุดรธานี ได้เดินทางมามอบโฉนดที่ดิน น.ส.จงลักษ์ และสินไหมทดแทนจำนวน 76388.94 บาท ให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ เนื่องจาก น.ส.จงลักษ์ ได้นำโฉนดที่ดินไปกู้เงินธนาคารอาคารสงเคราะห์จำนวน 5 แสนบาท เพื่อมาสร้างบ้าน โดยสัญญาชำระ 30 ปี พร้อมกับทำประกันชีวิตเต็มวงเงิน มอบให้แม่เป็นผู้รับผลประโยชน์ น.ส.จงลักษ์ชำระหนี้บ้านได้ 15 ปี 1 เดือน น.ส.จงลักษ์เสียชีวิต ทำให้หนี้เป็นศูนย์ และยังมีเงินสินไหมทดแทนอีกจำนวนหนึ่งมอบให้ผู้รับผลประโยชน์ แต่แม่ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีก่อน จึงนำเงินมามอบให้นายบุญช่วย ซึ่งเป็นคู่สมรสแทน. -716 สำนักข่าวไทย