นนทบุรี 6 พ.ย.- รมว.พาณิชย์ สำรวจตลาด-ห้างฯ ชี้สินค้าหลายรายการมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อ ต.ค.65 ที่จะแถลงออกมาน่าจะต่ำกว่าร้อยละ 6 แถมส่งผลดีให้กับราคาพืชเกษตรส่วนใหญ่ก็ปรับตัวดีขึ้นตาม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังสำรวจราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคตามห้างสรรพสินค้าและตลาดสดทั่วประเทศในขณะนี้ โดยราคาสินค้าส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง แม้จะมีบางสินค้าที่ปรับเพิ่มตามฤดูกาล แต่บางรายการสินค้ามีการปรับลดลงจริง ทำให้อัตราเงินเฟ้อของไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลง จากเมื่อเดือนสิงหาคมอยู่ที่ร้อยละ 7.86 ถือว่าเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 13 ปี แต่พอในเดือนกันยายนลดลงเหลือร้อยละ 6.41 และในเดือนตุลาคมที่จะแถลงในสัปดาห์หน้า ประเมินเบื้องต้นคาดว่าอาจจะไม่ถึง ร้อยละ 6 ซึ่งสะท้อนว่าสถานการณ์ราคาสินค้าในภาพรวมมีแนวโน้มชะลอตัวลง
ทั้งนี้ หากดูรายการสินค้าแต่ละหมวดมีหลายตัวที่ราคาปรับลดลงสอดคล้องกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัว เช่น สินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน หมูเนื้อแดง ตามห้างทั้งแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี จำหน่ายเฉลี่ยอยู่ทีกิโลกรัมละ 169 บาท น้ำมันปาล์ม จากก่อนหน้านี้ขวดละ 70 บาท ตอนนี้ 47-50 บาท/ขวด ส่วนผักชนิดต่างๆเริ่มลดลงจากก่อนหน้านี้หลายพื้นที่เจอปัญหาน้ำท่วมหรือกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาลดลง มีการจัดรายการลดราคาเป็นพิเศษ และกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายจัดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนเพิ่มเติมที่กระจายทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด มีส่วนช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนอีกด้วย
นอกจากนี้ ราคาพืชผลการเกษตรพบว่า ดีขึ้น เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิปรับขึ้น ราคาตันละ 15,500-16,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 13,500-14,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,200-9,400 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุม ตันละ 10,500-10,800 บาท ข้าวเปลือกเหนียว 9,800-11,800 บาท โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน ราคา 6-7 บาท/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 11-12 บาท/กก. มันสำปะหลัง 3 บาทกว่าต่อกิโลกรัม ถือว่าราคายังดีขึ้นต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย