กรุงเทพฯ 27 ต.ค. – ตร. โชว์ผลระดมตามนโยบายรัฐบาล เกือบ 10 วัน ยึดยาบ้ากว่า 18 ล้านเม็ด กวาดล้างหมายจับค้างเก่า 3,884 ราย ยาเสพติด 15,710 คดี และอาวุธปืน 3,984 คดี
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยผลการระดมฯ ในห้วงแรก (10-19 ต.ค.65) ภาพรวมการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีผลการดำเนินการ ดังนี้
- บุคคลตามหมายจับคดีอาญาได้ 3,884 หมายจับ
- ผู้ต้องหาคดียาเสพติด 15,710 คดี (ผู้ต้องหา 15,866 คน) ของกลางยาบ้า 18,314,853 เม็ด ยาไอซ์ 297,690 กรัม เฮโรอีน 30,735 กรัม ยาอี 6,550 กรัม
- ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุน ทั้งสิ้น 3,984 คดี ของกลางอาวุธปืนสงคราม 27 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 2,438 กระบอก มีทะเบียน 452 กระบอก วัตถุระเบิด 600 รายการ และเครื่องกระสุน 16,168 นัด แบ่งเป็นจับกุมความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายอาวุธปืนฯ โดยผิดกฎหมาย ทั้งโดยทางตรงและทางออนไลน์ จำนวน 97 คดี ผู้ต้องหา 63 คน) ของกลางอาวุธปืนไม่มีทะเบียน 46 กระบอก มีทะเบียน 12 กระบอก วัตถุระเบิด 156 รายการ เครื่องกระสุน 1,296 นัด และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนฯ อื่นๆ จำนวน 3,887 คดี (จับกุมผู้ต้องหา 3,864 คน) ของกลาง อาวุธปืนสงคราม 27 กระบอก อาวุธปืน (ไม่มีทะเบียน) 2,392 กระบอก มีทะเบียน 440 กระบอก วัตถุระเบิด 444 รายการ เครื่องกระสุน 14,872 นัด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติดที่เป็นรูปธรรม อย่างจริงจัง เน้นย้ำ ให้ทุกบูรณาการร่วมกันแก้ปัญหา นำหน่วยงานในท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา อย่างต่อเนื่อง เข้มข้น เพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมชัดเจน ได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างในห้วงวันที่ 10 ต.ค. – 8 พ.ย.65 โดยผลระดมกวาดล้างในห้วง 10 วันแรก (10 ต.ค.-19 ต.ค.) ทุกหน่วยมีผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีหมายจับค้างเก่า 3,884 หมายจับ จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 15,710 คดี และจับกุมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน 3,984 คดี
โดยในห้วงการระดมที่เหลือได้กำชับหน่วย เพิ่มความเข้มในการดำเนินการ และเพิ่มมาตรการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดออนไลน์ การสกัดกั้นยาเสพติดจากแนวชายแดน การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นบุคคลยานพาหนะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกเส้นทาง การสืบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายหรือขบวนการที่กระทำความผิด และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ยุ่งเกี่ยว พัวพันกับการกระทำความผิดกฎหมาย หรือประพฤติไม่เหมาะสม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างเด็ดขาด ทั้งทางอาญา ทางวินัย และทางปกครองโดยทันที
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งข้อมูล เบาะแส แจ้งข่าวอาชญากรรม ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา ทางหมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 โดยทุกข้อมูลจะดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง .-สำนักข่าวไทย