อุตรดิตถ์ 26 ต.ค. – ที่ลานวัดคุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มแม่บ้าน ต.คุ้งตะเภา ต่างขะมักเขม้นประดิษฐ์กระทงกะลามะพร้าวทำมือ เพื่อนำถวายวัดคุ้งตะเภา ในงานสืบสานประเพณีลอยกระทงกะลามะพร้าวลอยเคราะห์ท่าน้ำวัดคุ้งตะเภา ปี 2565 ในวันเพ็ญเดือนสิบสอง 8 พ.ย.นี้
นายรุ่งศักดิ์ เลี้ยงประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลคุ้งตะเภา กล่าวว่า วัดคุ้งตะเภา เป็นวัดโบราณมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และมีแม่น้ำน่านไหลผ่าน งานสืบสานประเพณีลอยกระทงกะลามะพร้าวลอยเคราะห์ท่าน้ำวัดคุ้งตะเภา ปี 2565 เป็นครั้งแรกรอบ 252 ปี หลังวัดได้รับสถาปนาขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เมื่อปี 2313 มีพระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา ให้คำปรึกษา โดยเห็นกะลามะพร้าวที่ชาวบ้านได้นำมาประกอบอาหารและขนม สุดท้ายต้องนำมาเผาไฟทิ้ง จึงเปลี่ยนมาเป็นกระทงแทนต้นกล้วย ทำความสะอาด ขัดให้เกิดความเงางาม และนำเศษเทียนพรรษาจากวัดต่าง ๆ มาต้มให้ละลายนำฝ้ายดิบมาปั่น เป็นลักษณะคล้ายกับตีนกา นำมาเป็นไส้ ใส่ในกระทงกะลา ไม่ต้องเผา ไม่ต้องทิ้ง ลดภาวะโลกร้อน
กระทงกะลามะพร้าว ขณะนี้รวบรวมได้กว่า 10,000 ใบ นำถวายวัดคุ้งตะเภา เป็นพุทธบูชา ให้พระสงฆ์ประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ก่อนนำกระทงดังกล่าวไปลอยท่าน้ำน่านวัดคุ้งตะเภา นอกจากเป็นการขอขมาพระแม่คงคาแล้ว ยังเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาอายุ สิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้ไหลไปกับสายน้ำ มีแสงไฟสว่างไสว นำทางสิ่งดีๆ ชีวิตเจริญก้าวหน้า และให้ลูกหลาน คนรุ่นใหม่ได้เข้าวัดทำบุญ บำรุงพุทธศาสนา

ทั้งนี้ เทศบาลตำบลคุ้งตะเภา กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายนนี้ “กระทงกะลาลอยเคราะห์” มีกระทงกะลาให้บูชา ร่วมลอยที่ท่าน้ำน่าน วัดคุ้งตะเภา ประดับประดาด้วยไฟหลากสีสัน เป็นทางเดินไปสู่ท่าน้ำเพื่อลอยกระทงกะลา. – สำนักข่าวไทย