อุบลราชธานี 18 ต.ค.- มท.1 นำคณะลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำ จ.อุบลราชธานี ย้ำนำความห่วงใยนายกรัฐมนตรี เป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่และผู้ประสบอุทกภัย ระบุรัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน เตรียมเพิ่มเงินเยียวยาพิเศษ คาดน้ำท่วมอุบลฯ นานนับเดือน สั่งผู้นำชุมชนกระจายของช่วยเหลือ สุขาเคลื่อนที่อย่างทั่วถึง
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย โดยทันทีที่เดินทางถึง กองบิน 21 จ.อุบลราชธานี นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี สรุปสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่ ล่าสุดว่ามี 19 อำเภอได้รับผลกระทบ 139 ครัวเรือน 1,205 หมู่บ้าน อพยพ 253 หมู่บ้าน 11,248 ครัวเรือน 34,137 คน และมีศูนย์พักพิงชั่วคราว 117 จุด การเกษตรคาดว่าได้รับความเสียหาย 352,018 ไร่ โดยจังหวัดอุบลราชธานีได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมกำลังแรง ทำให้มีฝนตกหนักและหนักมากในบางแห่ง ประกอบกับมวลน้ำในลุ่มแม่น้ำมูล ชี มีปริมาณน้ำไหลมารวมกัน รวมถึงระดับน้ำในแม่น้ำมูลล้นตลิ่งตั้งแต่ 10 ก.ย. ปัจจุบันยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชีและมูล พบว่ายังเกินความจุในทุกสถานีวัด ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งเข้าช่วยเหลือ นำของสิ่งของอุปโภคบริโภคไปให้ประชาชนมีใช้เบื้องต้น หากพื้นที่ใดได้อพยพประชาชนออกมาแล้ว ต้องเข้าไปช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด แจกจ่ายถุงยังชีพให้ครบถ้วนเพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเดือดร้อน ขณะเดียวกันกำชับให้จัดรถสุขาเคลื่อนที่ ให้ครบทุกพื้นที่ หลังจากในบางพื้นที่ได้ร้องเรียนเข้ามา
จากนั้น เดินทางจากกองบิน 21 โดยรถยกสูง ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปยังชุมชนบ้านกุดเป่ง เทศบาลเมืองวารินชำราบ ตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่านายกรัฐมนตรี ฝากความห่วงใยถึงประชาชน ซึ่งที่เดินทางมาวันนี้ เพื่อมาแบ่งเบาความทุกข์และความลำบาก สัญญาจะไม่ทอดทิ้งกัน ขณะเดียวกันเตรียมพร้อมที่จะเยียวยาฟื้นฟูทันที หากสำรวจความเสียหาย และเตรียมที่จะเพิ่มเงินเยียวยาเป็นพิเศษ เนื่องจากเห็นสภาพน้ำท่วมมิดหลังคาบ้านเรือน รวมถึงพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้าง
พร้อมยอมรับสถานการณ์น้ำปีนี้หนักกว่าปี 2562 แต่รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว กำชับท้องถิ่นให้เข้าช่วยเหลือประชาชน ทั้งเรื่องของถุงยังชีพ อาหาร สุขาเคลื่อนที่ เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดโอกาสให้ชาวบ้านเปิดอกพูดถึงสภาพปัญหาความเดือดร้อน ซึ่งชาวบ้านสะท้อนว่ายังไม่ได้รับเครื่องอุปโภคบริโภค จึงได้กำชับให้ผู้นำชุมชนเข้าให้การช่วยเหลือโดยด่วน โดยให้ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ปัดความรับผิดชอบ และรับปากที่จะช่วยเหลืออย่างทั่วถึง พร้อมให้สำรวจพื้นที่ความเสียหายด้านการเกษตรทันที ขณะที่ในอนาคตจะมีการเตรียมวางแผนในเรื่องการช่วยเหลือการประกอบอาชีพ
พลเอกอนุพงษ์ ยังได้พูดภาษาอีสานแสดงความห่วงใยพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลานานนับเดือน น้ำถึงจะลดลง เพราะขณะนี้มวลน้ำจาก จ.ขอนแก่น เข้า จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม จ.ยโสธร กำลังไหลลงเพิ่มเติมน้ำในพื้นที่อีก จึงให้ส่วนของพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือ
จากนั้น เดินทางต่อไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ดอนปู่ตา เทศบาลตำบลท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ และพื้นที่เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร เพื่อให้กำลังใจผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน .-สำนักข่าวไทย