ภูมิภาค 17 ต.ค. – แม้สถานการณ์น้ำท่วม จ.อุบลราชธานี จะทรงตัว แต่ประชาชนยังเดือดร้อน ต้องนั่งเรือเดินทางระหว่างเทศบาลเมืองวารินชำราบไปเทศบาลนครอุบลราชธานี เพราะถนนสายหลักยังถูกน้ำท่วม
ประชาชนในเทศบาลเมืองวารินชำราบ และเทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งต้องเดินทางไปทำงาน ต้องมารอขึ้นเรือนั่งข้ามฝั่งไปตามถนนสถิตนิมานกาล ถนนสายเศรษฐกิจที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร มานานกว่า 2 สัปดาห์ แม้การนั่งเรือจะลำบากแต่ก็ช่วยย่นระยะเวลาได้เยอะ เพราะใช้เวลานั่งเรือประมาณ 30 นาที ก็ข้ามไปอีกฝั่งได้แล้ว จากนั้นก็ไปต่อรถของจิตอาสา และของทหาร ที่มาให้บริการรับส่งไปตามถนนเลี่ยงเมืองสาย 231 ฝั่งตะวันตก ซึ่งมีน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร
ส่วนเส้นทางเลี่ยงเมือง 231 ฝั่งตะวันออก ที่เจ้าหน้าที่พยายามป้องกันไว้เป็นเส้นทางสุดท้าย มีปริมาณรถหนาแน่นมาก จากเดิมวันละ 5,000 คัน เป็นวันละเกือบ 50,000 คัน ทำให้การจราจรช่วงชั่วโมงเร่งด่วนติดขัดอย่างหนัก สำหรับแม่น้ำมูล วันนี้ ปรับระดับลดลงอีก 3 เซนติเมตร อยู่ที่ 11.44 เมตร โดยมีน้ำล้นตลิ่ง 4.44 เมตร แนวโน้มลดลงต่อเนื่อง คาดว่าราว 1 สัปดาห์ ถนนสถิตนิมานกาล ซึ่งเป็นถนนสายหลัก น้ำน่าจะลดจนกลับมาใช้สัญจรทางบกได้อีกครั้ง
น้ำล้นทุ่งลำท่าแดง จ.อ่างทอง
ภาพมุมสูงบริเวณทุ่งลำท่าแดง ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นทุ่งรับน้ำที่ 3 ของฝั่งตะวันตก ตอนนี้มีปริมาณน้ำมากจนล้นทุ่ง และได้เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายพันครอบครัวอย่างรวดเร็ว โดยทุ่งนี้รับน้ำมาจากทุ่งชีปะขาวใน จ.สิงห์บุรี ก่อนที่จะผ่านทุ่งไชโย ลงมายังทุ่งขุนอินทประมูล และทุ่งลำท่าแดงตอนบนและตอนล่าง ซึ่งทุ่งทั้งหมดสามารถรับน้ำกว่า 25,000 ไร่ และตอนนี้ ปริมาณน้ำมากจนล้นทุ่งเข้าท่วมบ้านเรือน ทั้ง อ.โพธิ์ทอง อ.ไชโย และ อ.เมือง ซึ่งชาวบ้านบอกว่า เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 54 ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว ต้องเร่งขนย้ายทรัพยสินและสิ่งของ รวมถึงสัตว์เลี้ยงออกมาอยู่ที่ปลอดภัย
ชาวบ้าน เล่าว่า น้ำขึ้นมาเมื่อคืนนี้อย่างรวดเร็วจนกระทั่งถึงช่วงเที่ยงวันนี้สูงจนเกือบถึงหน้าต่างบ้าน ตอนแรกน้ำไม่ได้มาทางด้านหลังก็เฝ้าระวังป้องกันด้านหน้ากัน แต่คืนเดียวน้ำทะลักเข้าท่วมจนมิดบ้านเลย ต้องย้ายทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงมาไว้ที่สูง
ยายวัย 70 อยู่ในน้ำท่วมนานนับเดือน-วอนขอยาแก้น้ำกัดเท้า
ชุมชุน ม.6 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ประมาณ 40 หลังคาเรือน เป็นชุมชนติดแม่น้ำเจ้าพระยา และถูกน้ำท่วมนานนับเดือนแล้ว อย่างบ้านของยายสุวณี อายุ 70 ปี ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่น้ำท่วม ยายสุวณี บอกว่า แรกๆ น้ำขึ้นๆ ลงๆ แต่ 2 อาทิตย์หลัง ระดับน้ำแทบจะไม่ลดลงเลย ต้องใช้ชีวิตเดินลุยน้ำอยู่ในบ้านและขายของตลอดทั้งวัน เพราะที่บ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ ตอนนี้เท้าทั้งสองข้างเป็นแผลน้ำกัดเท้า ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ก่อนหน้านี้ทางเทศบาลได้มาแจกถุงยังชีพและให้ยาทาน้ำกัดเท้ามา 1 หลอด แต่ยาทาก็หมดไปหลายวันแล้ว แต่แผลจากน้ำกัดเท้าก็ยังไม่หาย ตอนนี้สิ่งที่อยากได้มากที่สุด คือ ยาทากันน้ำกัดเท้ากับรองเท้าบูทเพื่อจะได้ใส่ลุยน้ำในบ้านได้ตลอดเวลา
พายุ “เนสาท” ทวีกำลังแรงเป็นไต้ฝุ่น
ส่วนพายุโซนร้อนกำลังแรง “เนสาท” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน เข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 19-20 ต.ค.65 ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้พายุอ่อนกำลังลงตามลำดับอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนบางแห่งเกิดขึ้นได้ .-สำนักข่าวไทย