กทม. 8 ต.ค.- ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน จับหนุ่มเข็นผักตลาดสี่มุมเมือง หลอกซื้อขายโทรศัพท์ ได้เงินนับแสนต่อวัน
ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ร่วมกันจับกุมนายกรภัทร หรือหนุ่ม หรือบอย อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมฯ ได้ที่บ้านในจังหวัดศรีสะเกษ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมาได้มีผู้เสียหายแจ้งว่ามีคนร้ายหลอกซื้อโทรศัพท์ไป โดยคนร้ายทำทีสนใจซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 13 Pro max ที่ได้โพสต์ขายไว้ในเฟซบุ๊ก ทักแชทเข้ามาเสนอซื้อในราคา 37,000 บาท และนัดหมายเจอกันที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือแถวบางซ่อน แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายบอยได้ขอเปลี่ยนสถานที่ซื้อเป็นที่ร้านโทรศัพท์ที่ชั้น 2 ห้างฯ ย่านประชาชื่น เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายบอย อ้างว่าไม่ได้อยู่ที่ร้าน ให้ผู้เสียหายนำโทรศัพท์ไปขายให้คนหน้าร้าน เมื่อไปถึงพบนายณัฏฐ์ เจ้าของร้านโทรศัพท์ จึงได้มอบโทรศัพท์ให้เจ้าของร้านตรวจเช็ก หลังจากนั้นนายณัฏฐ์ได้ถ่ายเอาบัตรประชาชนของผู้เสียหาย จากนั้นนายณัฏฐ์ได้โอนเงินไปบัญชีธนาคาร ชื่อ นางสาวชลธิชา เป็นจำนวนเงิน 37,000 บาท โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้รับเงิน จึงรู้ว่าถูกนายบอยหลอก ก่อนมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคนร้าย ทางตำรวจหลังรับแจ้งความได้โทรศัพท์ติดต่อไปหานางสาวชลธิชา สอบถามเรื่องดังกล่าว ได้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 12.00 น. ได้มีเฟซบุ๊ก ทักเข้ามาสั่งซื้อครีมทาหน้าจากนั้นได้ขอเลขบัญชีธนาคารของ นางสาวชลธิชา และแจ้งว่าขอไปเอาเงินเข้าบัญชีก่อน ต่อมาในเวลาประมาณ 14.16 น. เฟซบุ๊กดังกล่าวได้ทักแชทเข้ามาแจ้งว่าโอนเงินค่าสินค้าเกินไปให้ขอให้โอนกลับมาให้ที่บัญชีธนาคารในชื่อของนายสุเมธ นางสาวชลธิชา หลงเชื่อจึงได้โอนเงินคืนไปหลังจากหักค่าสินค้าแล้ว เป็นเงิน 28,920 บาท เมื่อทราบเส้นทางการเงิน จึงได้สืบสวนต่อจนพบว่า นายสุเมธ มีอาชีพขับไรเดอร์รับ-ส่งสินค้า ในวันดังกล่าวได้มีลูกค้าให้ไปรับโทรศัพท์โดยโอนเงินเข้าบัญชีตนเองจำนวน 28,920 บาท แต่ไปรอเป็นเวลานานก็ไม่มีใครเอาสินค้ามาให้ จึงบอกยกเลิกงานกับลูกค้าและจะขอโอนเงินคืน ทางลูกค้าออกอุบายว่าตอนนี้โทรศัพท์ที่ใช้สำหรับรับโอนเงินอยู่กับแฟน ไม่สามารถรับโอนได้ จึงให้ไรเดอร์กดเงินสดและนำเงินสดไปส่งที่ปั๊มน้ำมัน แถวคูคต เมื่อถึงเวลานัดหมายคนร้ายนั่งรถแท็กซี่มารับเงินและจ่ายค่าจ้างตนเอง จากนั้นก็แยกย้ายจากกัน
สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ ได้ก่อเหตุลักษณะนี้จำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2565 ได้ก่อเหตุหลอกซื้อ-ขายโทรศัพท์ ที่ห้างฯ ย่านบางซื่อ ท้องที่ สน.เตาปูน จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าพฤติการณ์การก่อเหตุมีลักษณะเดียวกัน และคนร้ายจะให้ไรเดอร์กดเงินสดที่หลอกมาได้ ไปส่งที่ตลาดสี่มุมเมือง จึงได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดที่มีการส่งมอบเงินกัน จนทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายกรภัทร หรือหนุ่ม หรือบอย จึงได้นำภาพของคนร้ายให้ นายสุเมธ ได้ตรวจสอบดูและยืนยันว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกับที่มารับเงินจากตนเองที่บริเวณปั๊มน้ำมัน แถวคูคต เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าเดิมทีนายกรภัทรทำอาชีพเข็นส่งผักผลไม้ที่ตลาดสี่มุมเมือง ทดลองเล่นการพนันฟุตบอลออนไลน์ ได้เงินดีรวดเร็วและไม่ต้องทำงานเหนื่อย จนช่วงหลังไปเล่นพนันบาคาร่า จนติดการพนันออนไลน์อย่างหนัก จึงเป็นเหตุให้ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายในรูปแบบต่างๆ เช่น หลอกขายของแบรนด์เนมแล้วไม่ส่งมอบสินค้า หลอกซื้อ-ขายโทรศัพท์ ได้ก่อคดีในลักษณะนี้มาตั้งแต่อายุ 17 ปี โดยใช้เฟซบุ๊กปลอมเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ บางวันหลอกได้ 3-4 คน ได้เงินร่วมแสนบาทต่อวัน มีผู้เสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่ามีหมายจับของ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ สภ.เมืองเลย จ.เลย อีกด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายกรภัทร ส่งพนักงานสอบสวนสน.บางขุนนนท์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย