มอสโก 29 ก.ย. – ข้อมูลจากรัฐบาลคาซัคสถาน จอร์เจีย และสหภาพยุโรป หรืออียู ระบุว่า มีชาวรัสเซียเดินทางออกนอกประเทศแล้วอย่างน้อย 200,000 คนนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งระดมพลรัสเซียครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รัฐบาลคาซัคสถานรายงานเมื่อวันอังคารว่า มีชาวรัสเซีย 98,000 คนเดินทางเข้าประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของจอร์เจียระบุว่า มีชาวรัสเซียกว่า 53,000 คนเดินทางจากรัสเซียเข้ามายังจอร์เจียนับตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ประธานาธิบดีปูตินสั่งระดมพล ส่วนฟรอนเท็กซ์ (Frontex) สำนักงานกิจการพรมแดนของอียู เผยว่า มีชาวรัสเซียเกือบ 66,000 คนเดินทางเข้ามาในประเทศสมาชิกของอียูในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานับถึงวันอาทิตย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์สของสหรัฐตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่องยากที่จะทราบตัวเลขที่แท้จริงของชาวรัสเซียที่เดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากรัสเซียมีพรมแดนติด 14 ประเทศตั้งแต่จีน เกาหลีเหนือ ไปจนถึงประเทศในแถบทะเลบอลติก และรัฐบาลของบางประเทศก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลชาวรัสเซียที่เดินทางเข้าประเทศ
ในขณะเดียวกัน สาธารณรัฐนอร์ทออสซีเชีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย โดยตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ได้ประกาศใช้มาตรการจำกัดจำนวนรถยนต์ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นของรัสเซียเมื่อวันพุธ ผู้ว่าการสาธารณรัฐระบุว่า ประกาศใช้คำสั่งดังกล่าวหลังจากที่มีชาวรัสเซียราว 20,000 คนเดินทางเข้ามาในช่วง 2 วัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัสเซียอาจกำลังพิจารณาใช้มาตรการจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศในอนาคต ทั้งนี้ บางประเทศสมาชิกของอียูได้ประกาศใช้มาตรการจำกัดพรมแดนกับรัสเซียไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่น เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์. -สำนักข่าวไทย