ซิดนีย์ 6 ก.ค.- ตำรวจออสเตรเลียจับกุมชายต้องสงสัยวางเพลิงโบสถ์ยิวในเมืองเมลเบิร์นขณะที่มีชาวยิวจำนวนหนึ่งอยู่ในโบสถ์ นับเป็นเหตุปองร้ายชุมชนชาวยิวในออสเตรเลียที่เกิดขึ้นล่าสุดตั้งแต่สงครามกาซาปะทุขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ตำรวจออสเตรเลียแถลงว่า สายสืบต่อต้านการก่อการร้ายเข้าจับกุมชายวัย 34 ปี ชาวเมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โทษฐานกระทำความผิดหลายข้อหา รวมถึงข้อหาวางเพลิง ชายคนนี้ได้ราดของเหลวติดไฟลงบนพื้นหน้าโบสถ์ยิวแล้วจุดไฟ ก่อนวิ่งหลบหนีไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นที่โบสถ์ยิวอีสต์เมลเบิร์น (East Melbourne Synagogue) ในรัฐวิกตอเรีย ขณะที่มีชาวยิวกำลังรับประทานอาหารมื้อค่ำในวันสะบาโตอยู่ในโบสถ์ประมาณ 20 คน นักดับเพลิงสามารถดับไฟได้สำเร็จ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ ด้านบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงออสเตรเลียหรือเอบีซี (ABC) รายงานว่า ชายคนนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำชั่วคราวระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากศาลแขวงเมลเบิร์นเปิดการไต่สวนในวันนี้ และไม่มีการยื่นขอประกันตัว เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่า คดีนี้เกี่ยวข้องกับเหตุวุ่นวายที่ร้านอาหารอิสราเอลในเมืองเมลเบิร์นที่เกิดขึ้นในคืนเดียวกัน และมีชายคนหนึ่งถูกจับกุมโทษฐานขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ องค์กรชาวยิวในออสเตรเลียเปิดเผยว่า ร้านอาหารได้รับความเสียหายหนัก ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อกของอิสราเอลโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ประณามผู้วางเพลิงโบสถ์ยิวที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเมลเบิร์นในวันสะบาโต ซึ่งเป็นวันพักผ่อนและนมัสการพระเจ้าของชาวยิว และการก่อเหตุกับร้านอาหารอิสราเอลที่ผู้คนกำลังรับประทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลระบุว่า เหตุการณ์เหล่านี้เป็นอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังอย่างร้ายแรง ส่วนนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียโพสต์เอ็กซ์เมื่อวันเสาร์ว่า เหตุวางเพลิงล่าสุดที่เกิดขึ้น 7 เดือนหลังจากเหตุวางเพลิงโบสถ์ยิวอีกแห่งในเมืองเดียวกัน เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ผู้ก่อเหตุจะต้องถูกลงโทษตามบทลงโทษสูงสุดของกฎหมาย […]