สหรัฐ 15 พ.ย.-ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เตือนว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขอให้ควบคุมอารมณ์ให้มากขึ้น เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า และเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแคต ยอมรับผลการเลือกตั้งตามแนวทางประชาธิปไตย
โอบามา พูดถึงการพบหารือส่วนตัว กับนายทรัมป์ ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสที่แล้วว่า เขาบอกกับนายทรัมป์ว่า กิริยาท่าทาง และการแสดงออกทางกาย ของประธานาธิบดีถือเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีนี้ ที่การแข่งขันเป็นไปอย่างร้อนแรง และก่อให้เกิดการแตกแยกครั้งใหญ่ในประเทศ โอบามา ขอให้ทรัมป์แสดงท่าทีปรองดองและพยายามหาทางเข้าถึงบุคคล กลุ่มซึ่งยังคงมีความวิตกกังวลต่อผลการเลือกตั้ง โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อยและผู้หญิง ส่วนเรื่องที่ว่าทรัมป์ไม่เคยมีประสบการณ์การเมืองมาก่อนเลย โอบามากล่าวว่า เรื่องนี้ อาจเป็นประโยชน์ตราบใดที่ทรัมป์มีที่ปรึกษาที่ดี และตัวเขามีภาวะผู้นำอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามโอบามาไม่ให้ความเห็นกรณีที่ทรัมป์ แต่งตั้งให้นายสตีฟ แบนนอน ดำรงตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่เหมาะ เพราะแบนนอนเป็นผู้บริหาร เว็บไซต์ Breitbart.com ซึ่งเป็นสื่อแนวขวาจัดขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ทรัมป์ต้องการให้บุตร 3 คน คือ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ อีวังก้า ทรัมป์ และอีริค ทรัมป์ และลูกเขยคือ จาเร็ด คุชเนอร์ สามีของอีวังก้า ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลลับของทางราชการ แต่คงยากที่จะเป็นไปได้ เพราะ ผิดกฎหมาย และรัฐธรรมนูญของสหรัฐ ที่ห้ามผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ว่าจ้างสมาชิกในครอบครัวและบุคคลในวงศ์ตระกูลเดียวกัน รับตำแหน่งในทำเนียบขาว
ขณะที่ทรัมป์ ยืนกรานตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้งว่า ถ้าได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐจะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะ “ผลประโยชน์ขัดกัน” โดยจะให้บุตรทั้ง 3 คน ทำหน้าที่บริหารอาณาจักรธุรกิจ “ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน” และตัวเขาจะวางมือจากธุรกิจทั้งหมด เพื่อทุ่มเททำงานในทำเนียบขาวอย่างเดียว แต่หลายฝ่ายยังคงจับตาไปที่ คุชเนอร์ ลูกเขย วัย 35 ปี สามีของอีวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนโปรดของทรัมป์ ซึ่งมีบทบาทในการหาเสียงของทรัมป์ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง โดยนายคุชเนอร์ยังได้ติดตามทรัมป์ มาเข้าพบโอบามา ที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย.-สำนักข่าวไทย