ซานฟรานซิสโก 14 ก.พ.- ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เหตุฉุกเฉินที่เขื่อนโอโรวิลล์ในขณะนี้เป็นเครื่องเตือนว่า ถึงเวลาต้องซ่อมบำรุงเขื่อนจำนวนมากที่ก่อสร้างมานานและเสี่ยงสร้างความเสียหายหนักให้แก่รัฐแคลิฟอร์เนียที่ร่ำรวยที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในสหรัฐ
นายนิโคลาส ซิตาร์ อาจารย์วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์กล่าวว่า เขื่อน 64 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 5 ของเขื่อนทั้งหมดในรัฐนี้ถูกจำกัดให้รับน้ำต่ำกว่าขีดความสามารถของเขื่อนเพราะมีความเสี่ยงเรื่องแผ่นดินไหวและภัยอื่น ๆ ขณะเดียวกันจำนวนประชากรที่ขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้จำนวนประชาชนที่อยู่ใต้เขื่อนอันเป็นเส้นทางเสี่ยงภัยหากเขื่อนแตกเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
เขื่อนในรัฐแคลิฟอร์เนียมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งต่อเกษตรกรที่ปลูกผักผลไม้เลี้ยงประเทศและต่อชาวเมือง เพราะประสบภาวะแห้งแล้งติดต่อกันหลายปี ข้อมูลของกองทหารช่างสหรัฐระบุว่า เขื่อน 1,140 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนียสร้างขึ้นก่อนปี 2513 มีเพียง 52 แห่งที่สร้างหลังปี 2543 และยังจัดให้เขื่อนกว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 1,585 แห่งในรัฐนี้เข้าข่ายอันตรายสูง อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตได้หากเสียหายหรือพัง กลุ่มสิ่งแวดล้อมชี้ว่า เหตุทางน้ำล้นของเขื่อนโอโรวิลล์เสียหายทั้งทางหลักและทางฉุกเฉินเป็นเครื่องตือนให้ทางการต้องเร่งซ่อมบำรุงเขื่อนที่มีอยู่ มากกว่านำงบประมาณไปเริ่มโครงการใหม่.-สำนักข่าวไทย