โซล 22 พ.ย.- นักวิชาการมองว่า การที่ชาวเกาหลีใต้ออกมาชุมนุมขับไล่ประธานาธิบดีปัก กึนฮเย เกิดจากความผิดหวังและรู้สึกว่าถูกหลอกเพราะมองว่าเธอเป็นผู้นำมือสะอาดและอุทิศชีวิตให้ประเทศชาติมาโดยตลอด
ประธานาธิบดีปัก วัย 64 ปี เป็นผู้นำคนแรกของประเทศที่จะถูกสอบปากคำอย่างเป็นทางการในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีอาญาทั้งที่ยังดำรงตำแหน่ง ต่างจากประธานาธิบดีคนก่อน ๆ ที่ถูกสอบสวนเรื่องทุจริตหลังพ้นจากตำแหน่งทุกคนนับตั้งแต่เกาหลีใต้มีการเลือกตั้งอย่างเสรีครั้งแรกในปี 2530 นายคิม จองยุพ อาจารย์สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮันชินมองว่า การที่ชาวเกาหลีใต้ออกมาชุมนุมขับไล่นางปักทุกสัปดาห์ไม่ใช่แค่เรื่องทุจริต แต่เป็นความรู้สึกว่าถูกหลอก พวกเขาเชื่อมาตลอดว่าเธอมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเหมือนบิดา และมีความอ่อนโยนเหมือนมารดา ขณะที่นายโรเบิร์ต เคลลี อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติปูซานรู้สึกว่า เป็นเรื่องของมิตรภาพที่เลยเถิด นางปักผู้โดดเดี่ยวได้ทุ่มเทความไว้วางใจทั้งหมดให้นางชเว ซูนซิล เพื่อนสนิท เช่นเดียวกับนายฮัน ฮีวอน อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยดองกุ๊กที่มองว่า นางปักคิดว่าการเชื่อใจเพื่อนและแยกตัวเองจากครอบครัวจะเป็นผลดีต่อการบริหารประเทศ
ประธานาธิบดีปักเป็นบุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีปัก จุงฮี ที่ปกครองประเทศแบบทหารระหว่างปี 2504-2522 เธอมีชีวิตที่โดดเดี่ยว บิดามารดาถูกลอบสังหาร ห่างเหินจากน้องสาว 2 คน ไม่มีสามี ไม่มีลูก เธอประกาศระหว่างหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2555 ว่า ไม่มีครอบครัวหรือลูก ๆ ที่จะรับสืบทอดมรดก จึงอยากจะอุทิศตนให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ชาวเกาหลีใต้สูงอายุชื่นชมเธอว่าเป็นผู้ที่สามารถเอาชนะโศกนาฏกรรมส่วนตัวได้ เธอกอบกู้ชื่อเสียงให้แก่พรรคแกรนด์เนชันแนลระหว่างดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในปี 2547-2549 จนชนะการเลือกตั้งหลายครั้ง ก่อนที่พรรคจะเปลี่ยนชื่อเป็นแซนูรีในปัจจุบัน จนได้รับฉายาว่า “ราชินีแห่งการเลือกตั้ง”.-สำนักข่าวไทย