นิวยอร์ก 16 ธ.ค.- นักวิเคราะห์ชี้ว่า เงินดอลลาร์สหรัฐที่ยิ่งแข็งค่าขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจกระทบต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดี
ปกติแล้วสกุลเงินที่แข็งค่ามักเป็นสัญญาณว่าประเทศนั้น ๆ มีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ สินค้านำเข้ามีราคาถูก สินค้าส่งออกมีราคาแพง แม้สหรัฐเป็นประเทศที่บริโภคเป็นหลักแต่การส่งออกก็เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นโดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2545 เป็นร้อยละ 12.6 ของจีดีพีปีก่อน ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าจึงกระทบต่อเกษตรกรในเขตมิดเวสต์ บริษัทเหล็กในรัฐโอไฮโอ และบริษัทเคมีในรัฐริมฝั่งอ่าวเม็กซิโก แม้ผู้ส่งออกเหล่านี้ได้ประโยชน์จากการนำเข้าวัตถุราคาถูกลงก็ตาม ดังนั้นนโยบายของทรัมป์ที่ชูอเมริกามาก่อนและดึงงานกลับประเทศจึงอาจถูกกระทบเพราะสินค้าส่งออกของสหรัฐมีราคาแพงกว่าคู่แข่ง แต่กลับทำเงินได้ลดลงเมื่อนำรายได้ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศมาแลกกลับเป็นดอลลาร์สหรัฐ ส่วนนโยบายลดภาษีและกฎระเบียบต่าง ๆ ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแล้วร้อยละ 5 เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุลนับตั้งแต่ทรัมป์ชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนเพราะตลาดคาดว่าเขาจะผลักดันนโยบายกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น และคาดว่าดอลลาร์สหรัฐจะเดินหน้าแข็งค่าต่อไปอีก ขณะที่ทรัมป์เองเคยเตือนระหว่างหาเสียงว่า หากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเกินไปและอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอาจก่อปัญหาใหญ่บางประการ.-สำนักข่าวไทย