ความคืบหน้าการผลิตวัคซีนโควิด-19

20 พ.ย.-พาไปดูความคืบหน้าการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากทั่วโลก รวมทั้งในไทย ซึ่งวัคซีนของแต่ละประเทศมีข้อจำกัด และผลทดสอบแตกต่างกันไป


เริ่มที่วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และไบออนเทค (BioNTech) สหรัฐอเมริกา ถือเป็นข่าวดีที่แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ มีชื่อเรียกว่าวัคซีนอาร์เอ็นเอ
-ชุดแรก เตรียมการฉีดก่อนเทศกาลคริสต์มาส ความท้าทายคือการขนส่งวัคซีนที่จะต้องจัดทำภายใต้อุณหภูมิลบ 80 องศาเซลเซียส
-ยังไม่สามารถตอบได้ว่า ผู้รับวัคซีนจะมีภูมิคุ้มกันยาวนานแค่ไหน อาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกปี เช่นเดียวกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
-ข้อจำกัดคือ ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจะไม่สามารถรับวัคซีนนี้ได้ คาดว่าจะสามารถผลิตได้จำนวน 1.3 พันล้านโดสภายในสิ้นปีหน้า แต่บริษัททั้งสองสามารถร่วมมือกับผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นๆ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้นได้ เช่นร่วมมือกับประเทศไทย

นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติเผย รัฐบาลไทยเตรียมประสานขอข้อมูลเชิงลึกกับบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ผู้คิดค้นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสัปดาห์ที่สามของเดือน พ.ย.นี้ ภายหลังมีการเปิดเผยผลวิเคราะห์ในขั้นแรกของวัคซีนจากบริษัทยารายใหญ่ในต่างประเทศ ว่าสามารถป้องกันไม่ให้คนติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ถึง 90% ส่วนการผลิตวัคซีนที่รัฐบาลไทยสนับสนุน ยังเดินหน้าตามแผนเดิมเริ่มทดสอบในคน ต้นเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งวัคซีนที่ผลิตในไทย ไว้ใช้เองในประเทศ อยู่ระหว่างการพัฒนา 20 กว่าชนิด หลักๆ ที่มีความคืบหน้ามากที่สุด คือ วัคซีนชนิด mRNA และวัคซีนชนิด DNA
1.วัคซีนชนิด mRNA พัฒนาโดยศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางวิจัยและพัฒนาวัคซีน จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
-ข้อจำกัดคือผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ไม่สามารถรับวัคซีนนี้ได้
-ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบในสัตว์ทดลองเพื่อดูประสิทธิผลของวัคซีน ก่อนเริ่มทดสอบในคนราวเดือน ม.ค. ปีหน้า
2.ส่วนวัคซีนชนิด DNA พัฒนาโดยบริษัทไบโอเน็ตเอเชีย ได้รับทุนจากรัฐบาลออสเตรเลีย ให้ทดสอบในคนระยะที่ 1 และจะมีการทดสอบระยะที่ 2 ในไทยประมาณต้นปีหน้า ซึ่งราวปลายเดือนมีนาคม 2564 ไทยน่าจะได้คำตอบว่าการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีนโควิดที่พัฒนาในประเทศอยู่ที่ระดับใด แต่หากประเทศไทยยังคงควบคุมโรคได้ดี จะไม่มีกลุ่มตัวอย่างเพียงพอสำหรับการทดลอง ซึ่งจำเป็นต้องไปขอความร่วมมือกับประเทศอื่นที่มีการระบาดของโรคต่อเนื่อง หรือใช้ผลที่ได้จากการทดสอบในประเทศไทยไปเทียบเคียงกับประเทศอื่นที่มีความก้าวหน้ามากกว่า เพื่อขอการรับรองจากองค์การอาหารและยาอนุมัติให้ขึ้นทะเบียน


วัคซีนของรัสเซีย
-ขึ้นทะเบียนวัคซีนต้านโควิด ตัวที่ 2 แล้ว โดยใช้ชื่อว่า เอพิวัคโคโรนา (EpiVacCorona) มีอาสาสมัครเข้าร่วมการทดสอบทางคลินิกของวัคซีนตัวนี้ 100 คน
-เป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพด้านการกระตุ้นภูมิคุ้มกันสูง
-ส่วนวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ตัวแรก ที่ขึ้นทะเบียน เมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.2563 ใช้ชื่อว่า สปุตนิกไฟว์ (Sputnik V) ตามดาวเทียมที่รัสเซียยิงขึ้นสู่อวกาศเมื่อปี 1957
-ผลการทดสอบขั้นต้นที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันโรค
-ผลข้างเคียงน้อย ถือเป็นวัคซีนโควิดที่ได้รับการอนุมัติเป็นชนิดแรกของโลก ตามรายงานของรอยเตอร์ อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยมองว่ายังต้องเดินหน้าทดสอบกับมนุษย์ในวงกว้างและในระยะยาว เพื่อดูเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโควิด-19 ในระยะยาว
-ตั้งเป้าผลิตวัคซีนโควิดให้ได้ราว 1.5-2 ล้านโดสต่อเดือนภายในสิ้นปีนี้ และจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 6 ล้านโดสต่อเดือนได้

ด้านเยอรมนีเผยความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 แซงหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ โดยวัคซีน ที่มีชื่อว่า ซีวีเอ็นคอฟ (CVnCoV) สามารถอยู่ในสภาพอุณหภูมิห้องได้นาน ถึง 24 ชั่วโมง ไม่ต้องแช่แข็งในอุณหภูมิติดลบตลอดเวลา สามารถแช่เย็นด้วยอุณหภูมิมาตรฐานของตู้เย็นทั่วไป ทำให้ช่วยรักษาคุณภาพของวัคซีนได้ง่ายขึ้น ลดภาระในการจัดเก็บวัคซีน ถือเป็นความก้าวหน้าเหนือวัคซีนบีเอ็นที162บี2 (BNT162b2) ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเท็ค(BioNTech) ของเยอรมนี ที่เพิ่งประกาศว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า 90% แต่ต้องแช่แข็งไว้ที่อุณหภูมิลบ 70 องศาเซลเซียส และวัคซีนจะอยู่ได้เพียง 24 ชม.เมื่ออยู่ในตู้เย็นทั่วไป

ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” โพสต์เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ว่ามีข่าวดีจากที่ประชุม ครม.มาบอก ล่าสุดประเทศไทยจะได้จองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ล่วงหน้า จำนวน 26 ล้านโดส กับบริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และบริษัท AstraZeneca UK จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่กำลังทดสอบในคนระยะที่ 3 โดยใช้งบ 2,379,430,600 บาท ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติแล้ว จากนั้นก็จะจัดซื้อวัคซีนที่ได้จากการจองล่วงหน้า วงเงิน 1,500 กว่าล้าน และมีค่าบริหารจัดการวัคซีน อีก 2,000 กว่าล้าน มีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน พ.ย.63- ธ.ค.64


วัคซีนจำนวนนี้จะช่วยลดอัตราการป่วย เสียชีวิต และค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ครอบคลุมคนไทย 13 ล้านคน โดยหากพัฒนาวัคซีนสำเร็จเราจะมีวัคซีนใช้ทันทีและจะเป็นประเทศแรกๆ ที่เข้าถึงวัคซีน เพราะเราได้จองซื้อล่วงหน้า ไม่เช่นนั้นอาจไม่ได้มาหรืออาจต้องจ่ายเงินซื้อในราคาสูง การจองซื้อนี้เราจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมาด้วย เพื่อให้ผลิตได้เองภายในประเทศ ไม่ต้องกังวลเรื่องการขนส่งและความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คนไทยเริ่มใส่หน้ากากป้องกันโรคลดลงจากกว่า 90% เหลือเพียง 50% จึงต้องสร้างความเข้าใจและกระตุ้นให้คนกลับมาสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่างให้ใกล้เคียงแบบเดิม เพราะไม่ว่าที่ไหนเรายังคงมีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 อยู่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี