คนทำงานกลางคืนในญี่ปุ่นตั้งระเบียบป้องกันโควิด

โตเกียว 20 ก.ค.- กลุ่มคนทำงานกลางคืนในญี่ปุ่นกำหนดระเบียบเพื่อการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อให้สามารถทำงานเลี้ยงชีพได้อย่างปลอดภัย


นักส่งเสริมสาธารณสุขที่ให้ความรู้เรื่องมาตรการควบคุมการระบาดในย่านชิจูกุของกรุงโตเกียวและย่านสถานบันเทิงตอนกลางคืนอธิบายระหว่างการแถลงข่าววันนี้ว่า คนทำงานต้องมีระเบียบปฏิบัติเรื่องการต้อนรับลูกค้า ประกอบด้วยการไม่จูบ ไม่รับประทานอาหารจานเดียวกัน และสนทนาห่าง ๆ เพื่อเลี่ยงการสัมผัสละอองฝอย ด้านผู้บริหารสมาคมธุรกิจกลางคืนเผยว่า อาชีพนี้ช่วยให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากโดยเฉพาะแม่เลี้ยงเดี่ยวมีงานเลี้ยงชีพ คาดว่ามีคนทำงานธุรกิจนี้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ทางสมาคมได้ร่างระเบียบความปลอดภัยให้แก่สมาชิกขึ้นเอง รวมถึงการฆ่าเชื้อไมโครโฟนในห้องคาราโอเกะ เพราะคำแนะนำความปลอดภัยของรัฐบาลหลายอย่าง เช่น สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างสองเมตร เป็นเรื่องที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง การมัวแต่ตำหนิคนทำงานกลางคืนว่าเป็นต้นเหตุให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาด ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น สมาคมระบุด้วยว่า รัฐบาลไม่ยอมรับระเบียบของพวกหรือเสนอให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธุรกิจหรือคนทำงานในธุรกิจนี้

การตรวจหาเชื้ออย่างเข้มงวดตามย่านสถานบันเทิงในกรุงโตเกียวทำให้พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนอายุ 20 ปีเศษและ 30 ปีเศษ ผู้ว่ากรุงโตเกียวประกาศยกระดับเตือนภัยเป็นสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ขณะที่รัฐบาลกลางกำลังพิจารณาเรื่องเข้มงวดมาตรการพิเศษที่เปิดทางให้ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน สื่อรายงานอ้างนายโยชิฮิเดะ สุกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่า อาจมีการสุ่มตรวจสถานบันเทิงตอนกลางคืนมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา สถาบันโรคติดต่อแห่งชาติติงว่า ไม่ควรเลือกปฏิบัติกับคนโดยอ้างจากสถานที่ทำงาน เพราะไม่ว่าทำงานกลางวันหรือกลางคืนก็มีความเสี่ยงติดเชื้อไม่ต่างกัน มาตรการลดการติดเชื้อจากคนสู่คนจึงควรเหมือนกัน.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย