ยุโรป 8 พ.ค.- หลายประเทศในยุโรปเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดที่ประกาศใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เตือนการเร่งรีบผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดต่างๆ มากเกินไปเสี่ยงต่อการกลับมาแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด-19 ขณะที่ในวันอาทิตย์นี้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ จะประกาศมาตรการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขั้นต่อไป จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในอังกฤษแล้วกว่า 30,000 คน ขณะที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 200,000 คน
ส่วนที่ฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีเอดัวร์ ฟิลิป เตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์หลังประสบความคืบหน้าในการหยุดยั้งการแพร่ระบาด แต่สำหรับบางแคว้น รวมถึงกรุงปารีส ที่ถูกจัดเป็นพื้นที่สีแดง ยังต้องคงมาตรการคุมเข้มต่อไป ชาวกรุงปารีสที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะในชั่วโมงเร่งด่วนต้องแสดงใบรับรองจากที่ทำงาน และต้องสวมหน้ากากอนามัย ผู้นำฝรั่งเศสเผยว่า โรงเรียนมัธยม ร้านกาแฟ และร้านอาหารอาจเปิดตามปกติได้ในราวต้นเดือนมิถุนายน ฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เกือบ 26,000 คน
เช่นเดียวกับที่นอร์เวย์ รัฐบาลเตรียมอนุญาตให้สถานที่ราชการและบริษัทเอกชนส่วนใหญ่กลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ราวกลางเดือนมิถุนายนนี้ รัฐบาลนอร์เวย์ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่เริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดบางอย่างตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนหลังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดภายใต้แผนการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด ร้านเหล้าและสวนสนุกสามารถเปิดให้บริการได้ในวันที่ 1 มิถุนายน ผู้คนสามารถชุมนุมกันได้ไม่เกิน 20 คน นอร์เวย์พบผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 คน เสียชีวิตเกือบ 220 คน.-สำนักข่าวไทย