วอชิงตัน 23 ก.ค.- ตัวแทนบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ 3 แห่งในสหรัฐแสดงความกังวลเรื่องข้อตกลงการค้าสหรัฐกับญี่ปุ่นที่สหรัฐจะลดอัตราภาษีศุลกากรให้แก่สินค้านำเข้าทั้งหมดของญี่ปุ่น รวมถึงยานยนต์เหลือร้อยละ 15 สภานโยบายยานยนต์อเมริกันหรือเอเอพีซี (AAPC) ซึ่งเป็นตัวแทนของเจนเนอรัลมอเตอร์สหรือจีเอ็ม ฟอร์ดมอเตอร์ และสเตลแลนทิสที่เป็นบริษัทแม่ของไครสเลอร์เปิดเผยว่า กำลังตรวจดูข้อตกลงดังกล่าว หากยานยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นที่ไม่มีชิ้นส่วนใด ๆ จากสหรัฐเลยได้อัตราภาษีศุลกากรต่ำกว่ายานยนต์ผลิตในอเมริกาเหนือที่มีชิ้นส่วนจากสหรัฐในสัดส่วนสูง ย่อมเป็นข้อตกลงที่ไม่ดีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐและคนทำงานในอุตสาหกรรมนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศผ่านทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวานนี้ว่า บรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่กับญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นจะลงทุนโดยตรงในสหรัฐมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17.7 ล้านล้านบาท) จะเปิดประเทศให้แก่การค้ารถยนต์และรถบรรทุก ข้าวและสินค้าการเกษตร และสินค้าอีกหลายอย่าง และจะจ่ายภาษีศุลกากรให้สหรัฐในอัตราร้อยละ 15 ก่อนหน้านี้นายทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 26 มีนาคมว่า เก็บภาษียานยนต์นำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกในอัตราร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ทำให้ยานยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกซึ่งมีข้อตกลงการค้ากับสหรัฐถูกเรียกเก็บอัตราดังกล่าวด้วย หากไม่มีชิ้นส่วนจากสหรัฐ เอเอพีซีเคยวิจารณ์นายทรัมป์เมื่อครั้งบรรลุข้อตกลงกับอังกฤษในเดือนพฤษภาคมว่า จะเป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ จากการให้โควต้าอังกฤษส่งออกยานยนต์มาสหรัฐโดยเสียภาษีร้อยละ 10 ได้ปีละ 100,000 คัน ซึ่งเกือบเท่าจำนวนที่อังกฤษส่งออกมาสหรัฐเมื่อปีก่อนอยู่แล้ว.-814.-สำนักข่าวไทย