ซีแอตเทิล 8 เม.ย.- ไอเรสปอนด์ (iRespond) องค์กรนอกภาครัฐที่ตั้งอยู่ในนครซีแอตเทิลของสหรัฐแนะว่า การใช้เทคโนโลยีระบุตัวตนด้วยชีวมิติ (biometric identification) ช่วยให้สามารถระบุตัวผู้มีภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และช่วยสร้างความมั่นใจว่าผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะได้รับวัคซีนเมื่อมีการพัฒนาสำเร็จ
ไอเรสปอนด์เปิดตัวเทคโนโลยีดังกล่าวเมื่อเดือนก่อน และได้นำไปใช้กับผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐบางส่วนแล้ว นายแลร์รี ดอห์รส์ หัวหน้าประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า สามารถใช้การระบุตัวตนด้วยชีวมิติเชื่อมบุคคลกับผลการตรวจหาเชื้อรวมไปถึงเอกสารสำคัญส่วนตัว ผู้ที่มีภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโคโรนาจะได้มีหลักฐานที่ไม่สามารถหักล้างได้ ทำให้สามารถกลับไปทำงานหรือเดินทางได้ ข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีคนกว่า 1,000 ล้านคนที่ไม่มีหลักฐานระบุตัวตน ด้านนักวิจัยศูนย์เพื่อการพัฒนาโลกในสหรัฐมองว่า เทคโนโลยีนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อรัฐบาลที่ต้องการให้วัคซีนไปถึงผู้ที่จำเป็นจริง ๆ ในกรณีที่สามารถพัฒนาวัคซีนได้ เช่น ผู้สูงอายุ บุคลากรทางการแพทย์ สกัดปัญหาทุจริต รั่วไหล หรือซ้ำซ้อนในยามที่วัคซีนจะมีอย่างจำกัดในเบื้องต้น
ด้านซิมปรินต์ส (Simprints) สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่ไม่แสวงหากำไรในสหรัฐเผยว่า กำลังพัฒนาการระบุตัวตนด้วยเทคโนโลยีชีวมิติผ่านการสแกนใบหน้าหรือฝ่ามือ แทนการใช้ลายนิ้วมือที่เสี่ยงแพร่เชื้อไวรัส และจะป้องกันปัญหาภาครัฐหรือเอกชนนำข้อมูลบุคคลไปใช้ในทางมิชอบด้วยการกำหนดประเภทข้อมูลและระยะเวลาที่จะใช้ได้ และจะถูกลบไปหลังจากนั้น เพื่อไม่ให้เทคโนโลยีที่ใช้เฝ้าระวังโรคกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมประชาชนในภายหลัง.- สำนักข่าวไทย