รัฐบาลเสียงข้างน้อยแคนาดาแถลงนโยบายต่อสภาครั้งแรก

ออตตาวา 6 ธ.ค.- รัฐบาลนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดซึ่งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยของแคนาดาแถลงนโยบายต่อรัฐสภาครั้งแรก และต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้านในการผ่านแต่ละนโยบายเพื่อให้บริหารประเทศได้ต่อไป


นางจูลี ปาแย็ตต์ ผู้สำเร็จราชการแคนาดากล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมเมื่อวานนี้ตามเวลาแคนาดา เป็นการประชุมสภาครั้งแรกนับจากการเลือกตั้งเดือนตุลาคมที่พรรคเสรีนิยมของนายกรัฐมนตรีทรูโดได้เสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่งและไม่ยอมตั้งรัฐบาลผสม นางปาแย็ตต์ อดีตนักบินอวกาศหญิงวัย 56 ปี ใช้เวลา 30 นาทีแถลงแผนของรัฐบาลเรื่องลดภาษี ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ปฏิบัติตามปฎิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิชนกลุ่มน้อย ห้ามการใช้ปืนไรเฟิล และโครงการจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ระดับประเทศ เธอกล่าวด้วยภาษาของนักบินอวกาศว่า ทุกคนกำลังมุ่งหน้าสู่ห้วงเวลาและอวกาศเดียวกันอย่างไม่สามารถแยกจากกันได้ และกำลังอยู่บนยานโลกเดียวกัน เธอมั่นใจว่าหากทุกคนทำงานร่วมกัน จะไม่มีอุปสรรคใดใหญ่จนเกินไป 

ด้านนายแจ็กมีต ซิงห์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่หรือเอ็นดีพี (NDP) ที่เป็นฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการที่กล้าหาญที่จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตประชาชนได้อย่างแท้จริง และรู้สึกผิดหวังกับนโยบายรัฐบาล ฝ่ายค้านต้องการทำงานร่วมกับรัฐบาล แต่สิ่งที่รัฐบาลเสนอยังไม่เพียงพอ สมาชิกสภาจะอภิปรายนโยบายรัฐบาลอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์ จากนั้นจะลงมติว่าเห็นชอบหรือไม่ หากไม่ก็อาจทำให้เกิดการเลือกตั้งก่อนกำหนด นักสังเกตการณ์ส่วนใหญ่เชื่อว่า รัฐบาลทรูโดจะไม่ล่มในเวลาอันใกล้เพราะฝ่ายค้านเองกำลังมีปัญหา นายแอนดรู เชียร์ หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมกำลังถูกกดดันให้ลาออกเพราะพ่ายเลือกตั้ง ขณะที่พรรคเอ็นดีพียังไม่มีเงินจะสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่ ประกอบกับชาวแคนาดายังไม่อยากกลับไปเลือกตั้งใหม่อีกในเร็ว ๆ นี้


ที่ผ่านมาแคนาดามีรัฐบาลเสียงข้างน้อยเพียง 14 ชุดเท่านั้น ชุดหลังสุดเกิดขึ้นในปี 2552 และมีเพียงไม่กี่ชุดที่อยู่ในได้เกิน 2 ปี นักวิชาการด้านการเมืองในแคนาดามองว่า รัฐสภาชุดที่ 43 นี้จะเป็นบททดสอบความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีทรูโดวัย 47 ปี เชื่อว่าเขาจะต้องยอมประนีประนอมมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย