จาการ์ตา 2 ธ.ค.-สถานการณ์ในกรุงจาการ์ตา ของอินโดนีเซีย ในวันนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด เมื่อฝูงชนนับแสน ออกมารวมตัวประท้วงขับไล่ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ที่ถูกกล่าวหาว่าดูหมิ่นศาสนาอิสลาม นับเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ขณะที่สถานทูตของหลายชาติเตือนพลเมือง ให้ออกห่างจากสถานที่ชุมนุม เพื่อความปลอดภัย
ฝูงชนผู้โกรธแค้นเรียกร้องให้มีการจับกุมตัวนายสุกี จา ฮาจา ปูร์นามา หรือที่รู้จักกันในนาม “อา ฮ็อค” ผู้ว่าการกรุงจาร์กาตาเชื้อสายจีน ที่นับถือ ศาสนาคริสต์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดูหมิ่นศาสนาอิสลาม แม้ก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนอย่างเป็นทางการต่อนายอาฮ็อค หลังมีการเคลื่อนไหวประท้วงเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยทางการร้องขอให้ประชาชนเคารพกระบวนการยุติธรรม และปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน ของกฎหมาย กรณีดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการปราศรัยของนายอาฮ็อค ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่คู่แข่งของเขามักนำเนื้อหาบางส่วนของพระคัมภีร์ อัลกุรอานมาเป็นเครื่องมือในการหาเสียง
โดยระบุว่าชาวมุสลิมไม่ควรเลือกผู้ที่ไม่ใช่ ชาวมุสลิมขึ้นมาเป็นผู้นำ ทั้งนี้นายอาฮ็อคเป็นชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีน คนแรกในรอบหลายสิบปี ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา คำกล่าวของนายอาฮ็อคถูกนำไปตีความว่าเป็นการหมิ่นศาสนา และมีการปลุกระดมให้ฝูงชนนับแสนออกมาร่วมกันชุมนุมต่อต้าน ในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งลุกลามบานปลายกลายเป็นเหตุรุนแรง หลังเกิดการปะทะระหว่างผู้ชุมนุม กับตำรวจมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บนับร้อย
สำหรับวันนี้ทางการได้วางกำลังตำรวจ 20,000 นาย คุมเข้มดูแลความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้แม้ผู้ชุมนุมจะชูประเด็นเรื่องการหมิ่นศาสนาเป็นเหตุผลหลัก แต่นักวิเคราะห์มองว่า เบื้องหลังที่แท้จริงถูกปลุกปั่นโดยกลุ่มที่มุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมือง โดยเฉพาะกลุ่มที่เสียผลประโยชน์จากนโยบายเด็ดขาดของนายอาฮ็อค และกลุ่มคู่แข่งทางการเมือง ที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือ ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งนายอาฮ็อคมีแผนจะลงชิงชัยรักษาตำแหน่ง.-สำนักข่าวไทย