นายกฯแคนาดาขอโทษหลังถูกขุดภาพเหยียดผิวสมัยหนุ่ม ๆ

ออตตาวา 19 ก.ย.- นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาขอโทษที่แต่งหน้าดำขณะอายุ 29 ปี หลังจากมีผู้นำภาพนี้มาเผยแพร่ขณะที่เขาจะต้องสู้ศึกเลือกตั้งในอีกไม่ถึง 5 สัปดาห์ 


นายกรัฐมนตรีทรูโดวัย 47 ปี บอกกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินหาเสียงที่เมืองฮาลิแฟ็กซ์ รัฐโนวาสโกเชียว่า เขาควรรู้ตัวในเวลานั้น แต่กลับไม่รู้ตัวและได้ทำลงไป ขณะนี้รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ตอนนั้นเขาแต่งตัวเป็นอะลาดินและแต่งหน้าให้เป็นคนผิวเข้มร่วมการแสดงในงานเลี้ยงสิ้นปีธีมอาระเบียไนท์สที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่เขาสอนอยู่เมื่อปี 2544  

ผู้นำแคนาดาขอโทษหลังจากนิตยสารไทมส์ลงภาพที่ได้มาจากนายไมเคิล อะดัมสัน นักธุรกิจชาวแวนคูเวอร์ที่เคยทำงานในโรงเรียนเวสต์พอยต์เกรย์ที่ทรูโดเคยสอนหนังสืออยู่ ภาพทรูโดแต่งตัวเป็นอะลาดินปรากฏอยู่ในหนังสือรุ่นของโรงเรียน เห็นเขาสวมผ้าโพกศีรษะแบบมุสลิม สวมชุดยาวสีขาว และแต่งหน้าเป็นคนผิวเข้ม 


ด้านนายแอนดรู เชียร์ หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมที่กำลังขับเคี่ยวกับนายทรูโด หัวหน้าพรรคเสรีนิยมก่อนการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 21 ตุลาคมกล่าวว่า ตกใจมากที่เห็นภาพดังกล่าวและรู้สึกผิดหวัง การแต่งหน้าดำเป็นการล้อเลียนและเหยียดผิวอย่างโจ่งแจ้ง สิ่งที่ชาวแคนาดาได้เห็นคือบุคคลที่ไร้ซึ่งวิจารณญาณและคุณธรรม ไม่มีความเหมาะสมที่จะปกครองประเทศนี้ นายกรัฐมนตรีทรูโดที่เคยมีคะแนนนิยมล้นหลามหลังเข้ารับตำแหน่งในปี 2558 กำลังเสียคะแนนในหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ถูกชี้ขาดเมื่อเดือนก่อนว่าฝ่าฝืนระเบียบจริยธรรมจากการกดดันรัฐมนตรียุติธรรมในขณะนั้นให้รับปากว่าบริษัทก่อสร้างใหญ่แห่งหนึ่งจะไม่ถูกไต่สวนในคดีทุจริต.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“แพทองธาร” พอใจผลเลือก อบจ. เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่

“นายกฯ แพทองธาร” พอใจผลเลือกตั้งนายก อบจ. บอกต้องนำมาวิเคราะห์หมด ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่ คุ้มสตางค์ค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง แจงปราศรัยเดือดไม่ใช่คาแรคเตอร์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์