วอชิงตัน 17 ก.ย. – ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและความมั่นคงระบุว่า การโจมตีแบบที่เกิดขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบียจนลดกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียลงถึงครึ่งหนึ่ง ไม่น่าจะเกิดกับสหรัฐได้
ขณะเดียวกันการจะโจมตีด้วยโดรนต่อแหล่งน้ำมันใหญ่ของสหรัฐอย่างในรัฐเทกซัสและรัฐนิวเม็กซิโก ก็ต้องบินโดรนไปไกลมากกว่าจะถึง และไม่มีทางเลยที่จะไม่มีใครเห็น ดังนั้นการจะโจมตีแหล่งน้ำมันของสหรัฐด้วยขีปนาวุธหรือด้วยโดรน จึงมีโอกาสที่จะสำเร็จน้อยกว่าการโจมตีทางไซเบอร์
ขณะเดียวกัน สหรัฐยังมีภูมิประเทศเป็นด่านป้องกัน และไม่มีเพื่อนบ้านที่เป็นปฏิปักษ์เหมือนอย่างที่ซาอุดี อาระเบียมีอยู่ และแม้จะสามารถโจมตีแหล่งน้ำมันของสหรัฐได้จริง แต่ก็จะไม่สามารถลดกำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐเหลือครึ่งหนึ่งได้ เหมือนอย่างที่เกิดกับซาอุดีอาระเบีย เพราะที่ผ่านมาโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหญ่ๆ ของสหรัฐก็เคยต้องปิดจากอุบัติเหตุหรือจากพายุมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้กระทบกับตลาด
สหรัฐเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานต่อเนื่องมานานหลายปี นับตั้งแต่เกิดเหตุก่อวินาศกรรม 11 กันยายน ปี 2544 ทั้งการเพิ่มมาตรฐานการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น และการตรวจสอบภูมิหลัง และความน่าเชื่อถือของคนงาน.-สำนักข่าวไทย