สิงคโปร์ 13 ก.ย.- ผู้บริหารที่เข้าร่วมการประชุมที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนเผยว่า ทางการจีนขอให้รัฐวิสาหกิจใหญ่ของประเทศเพิ่มการลงทุนและเพิ่มการกำกับดูแลบริษัทในฮ่องกง เพื่อช่วยคลี่คลายวิกฤตการเมืองในขณะนี้ที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี
รอยเตอร์อ้างการเปิดเผยของผู้บริหารสามคนที่เข้าร่วมการประชุมพร้อมกับตัวแทนรัฐวิสาหกิจใหญ่ของจีนเกือบร้อยแห่งว่า การประชุมนี้จัดขึ้นโดยคณะกรรมการบริหารและกำกับดูแลสินทรัพย์ของรัฐ หน่วยงานทรงอิทธิพลที่ดูแลรัฐวิสาหกิจซึ่งมีบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกรวมอยู่ด้วย เช่น ชิโนเปก บริษัทน้ำมันและแก๊ส ไชนาเมอร์แชนต์กรุ๊ป บริษัทขนส่งที่มีบริษัทในเครือมากมาย คณะกรรมการขอให้รัฐวิสาหกิจหาทางกำกับดูแลและมีอำนาจการตัดสินใจบริษัทในฮ่องกง ไม่ใช่แค่ถือหุ้นเท่านั้น ผู้บริหารในที่ประชุมรับปากจะเพิ่มการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวในฮ่องกงเพื่อสร้างงานให้แก่คนท้องถิ่นและทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ แต่ไม่ได้หารือหรือตกลงว่าจะลงทุนอะไรเป็นการเฉพาะเจาะจง
แหล่งข่าวผู้บริหารคนหนึ่งกล่าวว่า ชนชั้นนำทางธุรกิจในฮ่องกงยังไม่ทำเต็มที่ เพราะพวกเขาไม่เหมือนผู้บริหารในจีนแผ่นดินใหญ่ รอยเตอร์อธิบายเพิ่มเติมว่า รัฐวิสาหกิจใหญ่ของจีนเป็นธุรกิจที่มุ่งหน้าทำกำไรและส่วนใหญ่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ขณะเดียวกันก็ถูกคาดหวังว่าจะต้องรับใช้ประเทศด้วย ทั้งเรื่องรักษาระดับการจ้างงานให้สูงและขานรับนโยบายรัฐบาล เช่น โครงการเส้นทางสายไหมในศตวรรษที่ 21 สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานช่วงที่จีนเรียกประชุมผู้นำทางธุรกิจและนักการเมืองสนับสนุนจีนในฮ่องกงราว 500 คนเมื่อเดือนก่อนว่า ทางการจีนเห็นว่าแกนนำธุรกิจในฮ่องกงยังไม่พยายามมากพอ ทั้งที่ควรลุกขึ้นประกาศตัวอย่างไม่เกรงกลัวเพื่อหยุดยั้งความรุนแรงในฮ่องกง.- สำนักข่าวไทย