เซี่ยงไฮ้ 4 ก.ย. – กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ต้อนรับคณะสื่อมวลชนไทย พร้อมทั้งให้ข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับจีนและนครเซี่ยงไฮ้ที่เป็นประโยชน์
นางสาว ศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ นางสาวอารีย์ งามศิริพัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจการลงทุน หรือ BOI และนางสาวจีรนันท์ หิรัญญสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ต้อนรับและให้ข้อมูลแก่คณะสื่อมวลชนไทย ในโครงการ “มองจีนยุคใหม่ : ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้ ปีที่ 2” ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ กล่าวถึงความก้าวหน้าและการพัฒนาของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จีนพัฒนาและเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะ 3 ปัจจัย คือ ผู้นำมีวิสัยทัศน์ รัฐบาลมีระบบบริหารจัดการดีมาก และ มีนโยบายเน้นสร้างคนด้วยการศึกษา ปลูกฝังความคิดรักชาติและรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม โดยปัจจุบัน จีนเน้นสอนวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และให้ความสำคัญอย่างมากกับศาสตร์ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ด้วยปัจจัยส่งเสริมสนับสนุนโดยภาครัฐ ทำให้จีนเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนก้าวเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก ดังนั้น ไทยจึงจำเป็นต้องเรียนรู้จีนให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์
ด้าน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจการลงทุน หรือ BOI เผยว่าที่ผ่านมา สถิติพ.ศ. 2561-2562 มีนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าสหรัฐ – จีน ขอรับการส่งเสริมจาก BOI เข้าไปลงทุนในไทย จำนวน 39 โครงการ รวมมูลค่า 15,924 ล้านบาท และยังมีแนวโน้มที่บริษัทซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามดังกล่าวอีกมาก ที่จะย้ายฐานการผลิตออกจากจีน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าประเทศใดคือเป้าหมายสำคัญ แต่จากผลสำรวจความเห็นบริษัทเอกชนที่มีฐานการผลิตในจีน โดย American Chamber of Commerce in the People’s Republic of China (AmCham China) โนมูระ และ เจพี มอร์แกน ระบุตรงกันว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นปลายทางที่น่าสนใจสูงสุด โดยมองเวียดนาม เป็นอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ มาเลเซีย ส่วนไทย เป็นปลายทางอันดับที่สาม ในสายตานักลงทุน
กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ระบุว่า หน้าที่สำคัญของ Team Thailand หรือ คณะข้าราชการไทยในต่างประเทศ คือ การส่งเสริมผลประโยชน์ของไทย ซึ่งนอกจากการสร้างความสัมพันธ์อันดี ส่งเสริมการลงทุนแล้ว การสนับสนุนให้คนจีนไปท่องเที่ยวไทย ก็เป็น 1 ในภารกิจสำคัญ เนื่องจากไทย เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่คนจีนนิยม โดยก่อนหน้าเกิดอุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่จังหวัดภูเก็ต มีคนจีนยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ทุกวัน บางวันมากถึง 30,000 คน แต่หลังจากเกิดเหตุเรือล่ม ยอดผู้ยื่นขอวีซ่า ลดลงถึงครึ่งหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า ความปลอดภัยเป็นประเด็นที่นักท่องเที่ยวจีนให้ความสำคัญ โดยเฉพาะยุคนี้ คนจีนนิยมท่องเที่ยวส่วนบุคคล ด้วยการขับรถเที่ยวเอง ดังนั้น ความปลอดภัย และสาธารณูปโภคพื้นฐานการคมนาคม ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทางการไทยควรทำให้นักท่องเที่ยวจีนมั่นใจได้ จึงจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศ.- สำนักข่าวไทย