กรุงเทพฯ 2 ส.ค.- นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนระบุว่า การที่สหรัฐเก็บภาษีครั้งใหม่กับสินค้าจีนไม่ใช่หนทางที่จะแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ขณะที่นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า จีนเอาเปรียบทางการค้ามานานแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องยุติ
นายหวังกล่าวกับสื่อหลังเสร็จสิ้นการหารือนอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาและการประชุมที่เกี่ยวข้องที่กรุงเทพฯ ว่า ทราบเรื่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศจะเก็บภาษีร้อยละ 10 กับสินค้าจีนมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.27 ล้านล้านบาท) แล้ว การเก็บภาษีไม่ใช่หนทางสร้างสรรค์ในการแก้ไขความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างแน่นอน เพราะไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง
ด้านนายพอมเพโอซึ่งร่วมการประชุมที่กรุงเทพฯ เช่นเดียวกันกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้บริหารภาคธุรกิจในวันนี้ว่า จีนเอาเปรียบทางการค้ามาหลายทศรรษแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องยุติเสียที ปัญหาของจีนเกิดขึ้นจากจีนเอง ประธานาธิบดีทรัมป์เผชิญหน้ากับการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีนเพื่อช่วยให้โลกเห็นเรื่องนี้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น สหรัฐอยากให้ประเด็นทางการค้าคลี่คลายโดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ อยากให้จีนแข่งขันกับประเทศอื่นอย่างเท่าเทียม เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศอื่นและระบบการค้าโลกด้วย นายพอมเพโอกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจจีนขณะนี้กำลังเข้าสู่ภาวะชะลอการเติบโตที่กลายเป็นเรื่องปกติใหม่ไปแล้ว สิ่งนี้ควรเป็นเครื่องเตือนใจประเทศต่าง ๆ ที่คิดเอาอย่างจีนหรือคิดดึงดูดการลงทุนจากจีน.-สำนักข่าวไทย
