มอสโก 3 มิ.ย.- ชาวรัสเซียไม่พอใจนโยบายกำจัดขยะของรัฐบาลที่มุ่งเผาก่อมลภาวะ แทนที่จะรีไซเคิลคัดแยกนำไปหมุนเวียนใช้ใหม่
ที่ทิ้งขยะแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออก 80 กิโลเมตร เปิดใช้มาตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 ชาวบ้านร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นฉุนมาตั้งแต่ปี 2556 และเกรงว่าจะปนเปื้อนแหล่งน้ำใต้ดิน ทางการยอมรับว่ากลิ่นมาจากกองขยะ แต่ยืนยันว่าไม่เป็นอันตรายเพราะมีระบบกรองของเสีย ขณะนี้กองขยะเป็นภูเขาสูงถึง 157 เมตร มองเห็นได้จากไกล ๆ ทางการมีแผนจะตั้งเตาเผาเพื่อกำจัดขยะบางส่วน แต่กลุ่มนักเคลื่อนไหวคัดค้านและอยากให้รีไซเคิลมากกว่า ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า รัสเซียรีไซเคิลขยะเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น เทียบกับเยอรมนีและฝรั่งเศสที่มีอัตรารีไซเคิลขยะในปี 2560 สูงถึงร้อยละ 68 และ 43 ตามลำดับ
ทางการเปิดที่ทิ้งขยะแห่งใหม่ที่แคว้นอาร์ฮันเกลสค์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อรองรับขยะจากกรุงมอสโกที่อยู่ไกลออกไป 1,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งสร้างขยะร้อยละ 15 ของประเทศ แต่ถูกคนในพื้นที่ประท้วงคัดค้าน ถึงขั้นปะทะกับคนงานก่อสร้างและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินประกาศเมื่อธันวาคมปีก่อนว่า จะเพิ่มอัตรารีไซเคิลขยะให้ได้ร้อยละ 60 ภายในปี 2567 ด้วยการตั้งศูนย์คัดแยกขยะเพิ่มอีก 200 แห่ง แต่นักเคลื่อนไหวไม่เชื่อน้ำยาเพราะการดำเนินนโยบายนี้จากส่วนกลางไม่เคยประสบความสำเร็จ มีเพียงความริเริ่มจากภาคเอกชนเท่านั้นที่เป็นผล การจะแก้ปัญหานี้ต้องแก้ไขทั้งกฎหมายและสำนึกของคน เดือนมกราคมปีนี้รัฐบาลออกมาตรการปฏิรูปขยะที่หวังให้การจัดการขยะมีความโปร่งใสมากขึ้น แต่กลายเป็นทำให้ค่าเก็บขยะแพงขึ้น ทั้งที่ควรทำก่อให้เกิดขยะต้องเสียเงินแพงขึ้นมากกว่า.-สำนักข่าวไทย