ศาลฎีกาอินเดียสั่งพรรคการเมืองเปิดเผยชื่อผู้บริจาคนิรนาม

นิวเดลี 13 เม.ย.- ศาลฎีกาอินเดียมีคำสั่งให้พรรคการเมืองเปิดเผยชื่อผู้บริจาคนิรนามที่บริจาคเงินก้อนใหญ่ ขณะที่การต่อสู้ทางการเมืองทวีความเข้มข้นขึ้นหลังจากเปิดการเลือกตั้งระยะแรกไปเมื่อวันที่ 11 เมษายน จากทั้งหมด 7 ระยะ 


ศาลฎีกามีคำสั่งเมื่อวานนี้ให้พรรคการเมืองเปิดเผยชื่อผู้ซื้อพันธบัตรเลือกตั้งในช่วงหลายเดือนมานี้ภายใน 7 สัปดาห์ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งและกลุ่มสังเกตการณ์การเลือกตั้งร้องเรียนให้ยุติการขายพันธบัตรเลือกตั้ง เพราะเปิดช่องให้มีการบริจาคลับ ๆ เพื่อมีอิทธิพลต่อพรรคการเมือง รัฐบาลนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เปิดตัวพันธบัตรเลือกตั้งในปี 2560 มีราคาตั้งแต่ 15-140,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 475 บาท-4.44 ล้านบาท) เจาะจงพรรคการเมืองที่ต้องการซื้อให้ แต่ไม่เปิดเผยตัวคนชื้อ 

มีข่าวว่า พรรคการเมืองในอินเดียใช้เงินเพื่อการเลือกตั้งครั้งนี้มากถึง 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 221,985 ล้านบาท) ทำให้หลายฝ่ายจับจ้องเรื่องที่มาของเงิน สมาคมเพื่อการปฏิรูปประชาธิปไตย หนึ่งในผู้ร้องเรียนระบุว่า พรรคภารติยะชนตะ หรือบีเจพี ที่นายกรัฐมนตรีโมดีสังกัดอยู่ได้รับเงินบริจาคปีที่แล้วทั้งปี 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,759 ล้านบาท) กว่าครึ่งมาจากผู้บริจาคนิรนาม ส่วนพรรคคองเกรสของนายราหุล คานธีที่เป็นฝ่ายค้านหลักได้ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 951 ล้านบาท) ร้อยละ 60 มาจากผู้บริจาคนิรนาม 


ข้อมูลของ Factly Indian เว็บท่าข่าวของอินเดียเผยว่า ปีที่แล้วมีการซื้อพันธบัตรเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่ต่ำกว่า 4,759 ล้านบาท) ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า มีการซื้อในปริมาณใกล้เคียงกันช่วงหลายเดือนก่อนที่การเลือกตั้งทั่วไปเปิดฉากเมื่อวันที่ 11 เมษายน การเลือกตั้งระยะที่สองจะมีในวันที่ 18 เมษายน และจะทยอยจัดไปจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย