วอชิงตัน 9 ก.พ.- สำนักงานศุลกากรและตระเวนชายแดนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้พยายามลอบเข้าเมืองที่พรมแดนเม็กซิโกได้กว่า 200,000 คนในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 85 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และราวครึ่งมาเป็นครอบครัว
ข้อมูลระบุว่า ผู้ลอบเข้าเมืองเป็นครอบครัวส่วนใหญ่พยายามข้ามพรมแดนที่รัฐเท็กซัส รองลงมาคือรัฐแอริโซนา ส่วนใหญ่เดินทางมาจากกัวเตมาลา ตามด้วยฮอนดูรัส เจ้าหน้าที่ที่ขอสงวนนามเผยว่า ครอบครัวเหล่านี้มักเดินทางมาเป็นรถบัสคราวละหลายร้อยคน ใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางประสานการเดินทางมุ่งหน้าขึ้นเหนือ จากนั้นจะลงรถบนทางหลวงห่างจากด่านหลายกิโลเมตรแล้วเดินเท้ามาที่พรมแดน เพราะกฎหมายสหรัฐเปิดช่องให้ผู้มาแสดงตัวที่ด่านสามารถยื่นขอลี้ภัยอย่างถูกกฎหมายได้ แต่เจ้าหน้าที่ที่ด่านไม่สามารถรับคำร้องของคนจำนวนมากได้ในคราวเดียว ขณะที่กฎหมายกำหนดให้ต้องยื่นคำร้องภายใน 3 วันที่มาแสดงตัว เจ้าหน้าที่เผยด้วยว่า ปีที่แล้วมีผู้ขอลี้ภัยถูกส่งตัวไปยังสถานพยาบาลราว 12,000 คน คาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 28,000 คน
กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐประกาศเมื่อเดือนธันวาคมว่า จะให้ผู้ขอลี้ภัยพำนักอยู่ในเม็กซิโกก่อนระหว่างรอศาลเข้าเมืองของสหรัฐตัดสินคำขอลี้ภัย จนถึงขณะนี้มีการปฏิบัติจริงเพียงไม่กี่ราย แม้ว่ากระทรวงยืนยันว่าจะใช้นโยบายนี้กับด่านพรมแดนทุกแห่งก็ตาม.-สำนักข่าวไทย