โตเกียว 23 ม.ค.- ปี 2561 ที่ผ่านมาญี่ปุ่นขาดดุลการค้าครั้งแรกนับจากปี 2558 เนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ทำให้ยอดส่งออกของญี่ปุ่นไปยังสองประเทศนี้ลดลงมาก
กระทรวงคลังญี่ปุ่นเผยแพร่ข้อมูลวันนี้ว่า ปีที่แล้วขาดดุลการค้า 1.203 ล้านล้านเยน (ราว 348,215 ล้านบาท) หลังจากได้ดุลการค้ามาสองปี เนื่องจากยอดส่งออกต่อปีขยายตัวเพียงร้อยละ 4.1 จากที่เคยขยายตัวถึงร้อยละ 11.8 ในปี 2560 หากแยกเป็นยอดส่งออกไปจีนและสหรัฐ ขยายตัวลดลงจากร้อยละ 20.5 เหลือร้อยละ 6.8 และจากร้อยละ 6.9 เหลือร้อยละ 2.3 ตามลำดับ เฉพาะเดือนธันวาคมเดือนเดียว ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 55,300 ล้านเยน (ราว 16,000 ล้านบาท) เทียบกับปีก่อนหน้านั้นที่ได้ดุลการค้า 356,000 ล้านเยน (ราว 102,996 ล้านบาท) เนื่องจากส่งออกลดลงร้อยละ 3.8 แต่นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9
นักเศรษฐศาสตร์สถาบันวิจัยโนรินชูกินมองว่า การส่งออกไปสหรัฐแม้ไม่แข็งแกร่งแต่ก็ยังทรงตัว ขณะที่การส่งออกไปเอเชียโดยเฉพาะจีนชะลอตัวลงมาก ความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐ-จีนจึงมีผลอย่างยิ่งต่อบริษัทญี่ปุ่นที่ส่งออกชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับประกอบสินค้าสำเร็จรูปที่โรงงานจีน และบริษัทญี่ปุ่นที่ผลิตและส่งออกจากจีน หากความตึงเครียดไม่ดีขึ้น ยอดส่งออกของญี่ปุ่นอาจไม่เติบโต ขณะที่ตัวเลขการค้าของญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะแย่ลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้าเพราะญี่ปุ่นจะขึ้นภาษีขายจากร้อยละ 8 ในปัจจุบันเป็นร้อยละ 10 ในเดือนตุลาคม กระตุ้นการนำเข้าสินค้าจำนวนมากก่อนภาษีใหม่มีผลบังคับใช้ ทำให้ยอดขาดดุลการค้ายิ่งเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย