ฝรั่งเศส 6 ธ.ค. – ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการขึ้นภาษีน้ำมันในปีหน้า หลังมีการประท้วงต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ แต่หวั่นเกรงว่า จะเกิดการประท้วงครั้งใหม่ ในวันเสาร์นี้
ประธานาธิบดีมาครง ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการดังกล่าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของเขาที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก และช่วยลดภาวะโลกร้อน ผู้ประท้วงได้พากันแสดงความยินดี แต่บางคนเห็นว่า ท่าทีอ่อนข้อของประธานาธิบดีมาครง เกิดขึ้นสายเกินไป และไม่สามารถขจัดความไม่พอใจที่มีต่อตัวเขาได้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลฝรั่งเศส ได้ตัดสินใจจะระงับการขึ้นภาษีน้ำมันไว้เป็นเวลา 6 เดือน แต่แทนที่จะทำให้ผู้ประท้วงพอใจ กลับกระตุ้นให้ผู้ประท้วงกลุ่มอื่นมาร่วมชุมนุมด้วย รวมทั้งกลุ่มสหภาพแรงงานและบรรดาเกษตรกร การประท้วงที่เกิดขึ้นนาน 3 สัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต ไปแล้ว 4 คน บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน ทั้งยังทำให้ทรัพย์สินรวมทั้งรถยนต์เสียหายจำนวนมาก นับเป็นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลครั้งรุนแรงที่สุด ในกรุงปารีส นับตั้งแต่ ปี 2511 ขณะที่คะแนนนิยมของนายมาครง ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 23 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดครั้งใหม่
โดยนายมาครง ถูกกล่าวหาว่า เป็นประธานาธิบดีของคนร่ำรวย และเหินห่างจากชนชั้นกลาง โดยนับตั้งแต่เขาเดินทางกลับมาจากการประชุมจี 20 ที่อาร์เจนตินา เมื่อวันอาทิตย์ เขาก็ยังไม่ได้ออกมาพูดคุยกับประชาชนเลย .- สำนักข่าวไทย