พบเครื่องบิน Lion Air มีปัญหา 1 วัน ก่อนตกดับยกลำ 189 คน

อินโดนีเซีย 30 ต.ค. – มีรายงานว่า เครื่องบินโดยสารสายการบินไลอ้อนแอร์ ของอินโดนีเซีย ที่นำผู้โดยสารเกือบ 200 คน ไปตกทะเลเมื่อวานนี้ เพิ่งเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิคเพียงวันเดียว ก่อนประสบอุบัติเหตุ


เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นโบอิ้ง 737 เที่ยวบินที่ JT 610 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 189 คน ประสบอุบัติเหตุตกทะเลชวา หลังออกจากกรุงจาการ์ตาจะไปเมืองปังกัล ปินังบนเกาะบังกา เบลิตุง แต่บินขึ้นได้แค่ 13 นาที กัปตันได้ขอบินกลับสนามบินกรุงจาการ์ตา แต่หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อ และจากการค้นหาของหน่วยกู้ภัยยังไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งบอกว่าจะมีผู้รอดชีวิต หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังเหมือนฟ้าร้องขณะเครื่องตก 


จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ ช่วงที่เครื่องบินลำนี้บินจากเกาะบาหลีมากรุงจาการ์ตา มีรายงานว่าเครื่องมีปัญหาด้านอุปกรณ์มาก่อนแล้ว โดยพบว่าอุปกรณ์ของกัปตันซึ่งทำหน้าที่รายงานความเร็วของเครื่องบินและเพดานบินทำงานผิดพลาด จนกัปตันต้องให้ผู้ช่วยนักบินควบคุมเครื่องบินแทน แต่กัปตันก็ตัดสินใจบินต่อและลงจอดที่สนามบินกรุงจาการ์ตาได้โดยปลอดภัย 

นายเอ็ดเวิร์ด ซีราอิต หัวหน้าผู้บริหารของไลอ้อนแอร์ เผยว่า ปัญหาอุปกรณ์รายงานผิดพลาดดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว โดยอ้างว่าหากอุปกรณ์ยังคงรายงานผิดพลาดจริงคงไม่ยอมให้ขึ้นบินแน่ และว่าเครื่องบินรุ่นนี้เป็นชนิด 737 แม็กซ์ ซึ่งอัพเดตจากรุ่น 737 เดิม ไลอ้อนแอร์มีบินอยู่ 8 ลำ มีเพียงลำนี้ลำเดียวที่มีปัญหา 


นายสุโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ  หัวหน้าสำนักงานด้านภัยพิบัติของอินโดนีเซีย ได้ทวีตภาพเศษวัสดุและสิ่งของของผู้โดยสารเครื่องบินลำนี้ลอยกระจัดกระจายอยู่ในทะเลบริเวณที่คาดว่าเป็นจุดเครื่องบินตก

ด้านนางศรี มัลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซียกล่าวทั้งน้ำตาว่า ในเที่ยวบินนี้มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังเดินทางไปด้วยถึง 21 คน ถือว่าทุกคนเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่บริษัทแม่ของโบอิ้งออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจแก่ผู้เสียชีวิต และพร้อมให้ความช่วยเหลือในด้านเทคนิคในการสืบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างเต็มที่ ส่วนรัฐบาลออสเตรเลียได้สั่งให้ชาวออสเตรเลียระงับการโดยสารสายการบินนี้จนกว่าการสืบสวนสาเหตุเครื่องบินตกจะปรากฏผลออกมา

ไลอ้อนแอร์เป็นสายการบินต้นทุนต่ำของอินโดนีเซีย ตั้งขึ้นเมื่อปี 2542 บินทั้งในและนอกประเทศ โดยมีเส้นทางบินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง ในอดีตเคยมีปัญหาด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการจนห้ามบินผ่านน่านฟ้ายุโรปจนกระทั่งปี 2559 เมื่อปี 2556 เครื่องบินเคยประสบเหตุลื่นไถลตกทะเลขณะลงจอดที่เกาะบาหลี แต่ผู้โดยสารปลอดภัย ส่วนก่อนหน้านั้นในปี 2547 เครื่องบินของไลอ้อนแอร์ตกขณะลงจอดที่เมืองโซโล มีผู้เสียชีวิต 25 คน. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]