อินสตาแกรมใช้เอไอตรวจหาสัญญาณรังแกออนไลน์

ซานฟรานซิสโก 10 ต.ค.- อินสตาแกรมเพิ่มเครื่องมือรับมือกับการรังแกในโลกไซเบอร์ด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) สแกนภาพต่าง ๆ เพื่อค้นหาโพสต์ที่น่าจะมีเนื้อหารังแกกัน 


นายอดัม มอสเซรี ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมโพสต์ในบล็อกว่า อินสตาแกรมกำลังใช้เอไอตรวจหาสัญญาณการรังแกออนไลน์จากภาพต่าง ๆ แล้วจะทำเครื่องหมายโดยอัตโนมัติให้พนักงานเข้าไปตรวจสอบเนื้อหาโพสต์ วิธีนี้จะช่วยให้ตรวจพบและลบโพสต์รังแกออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากผู้ถูกรังแกหรือเห็นการถูกรังแกมักไม่รายงานให้ทราบ คาดว่าต้องใช้เวลาสองสามสัปดาห์จึงจะสามารถนำมาใช้ได้อย่างครอบคลุม

ส่วนตัวกรองที่ให้ผู้ใช้อินสตาแกรมตรวจหาและซ่อนโพสต์เนื้อหารังแกกันออกจากฟีดหรือโปรไฟล์ ขณะนี้สามารถนำไปใช้กับคอมเมนต์ในไลฟ์วิดีโอได้แล้ว นอกจากนี้บริษัทยังส่งเสริมให้คนทำดีต่อกันด้วยการเพิ่มเอฟเฟ็กต์กล้องสำหรับตกแต่งภาพด้วยรูปหัวใจหรือถ้อยคำแสดงน้ำใจในภาษาต่าง ๆ นายมอสเซรีกล่าวว่า การรังแกออนไลน์เป็นเรื่องซับซ้อน อินสตาแกรมจึงต้องเพิ่มความพยายามจำกัดการกระทำดังกล่าวและส่งเสริมการแสดงน้ำใจต่อกัน


ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเฟซบุ๊กซึ่งเป็นเจ้าของอินสตาแกรมแจ้งว่า ต่อไปนี้ผู้ใช้จะสามารถซ่อนหรือลบคอมเมนต์ได้คราวละหลายข้อความ ไม่ต้องไล่ลบทีละข้อความ และจะให้ผู้ใช้สามารถรายงานการรังแกหรือคุกคามออนไลน์แทนเพื่อนที่ตกเป็นเหยื่อและไม่กล้ารายงาน 

การเคลื่อนไหวของเฟซบุ๊กมีขึ้นหลังจากศูนย์วิจัยพิวสำรวจเมื่อเดือนก่อนพบว่า เยาวชนอเมริกันส่วนใหญ่เผยว่าตกเป็นเหยื่อรังแกหรือคุกคามออนไลน์ ที่พบมากที่สุดคือการถูกตั้งฉายาหยาบคาย เยาวชนร้อยละ 59 รายงานเมื่อถูกรังแกหรือคุกคาม ร้อยละ 63 ระบุว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของคนวัยนี้ และส่วนใหญ่เห็นว่าทั้งครูอาจารย์ บริษัทเจ้าของสื่อสังคมออนไลน์และนักการเมืองไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเท่าที่ควร.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย