กาฐมาณฑุ 27 ส.ค.- ร่างรายงานสรุปผลการสอบสวนเหตุเครื่องบินตกที่ท่าอากาศยานนานาชาติกาฐมาณฑุเมื่อเดือนมีนาคมที่มีผู้เสียชีวิต 51 คนระบุว่า นักบินร้องไห้และควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ก่อนครื่องบินตก
สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างร่างรายงานสรุปที่รั่วในวันนี้ว่า เหตุเครื่องบินสายการบินยูเอส-บังกลาแอร์ไลน์เที่ยวบิน 211 เดินทางจากกรุงธากาของบังกลาเทศ ตกที่ท่าอากาศยานนานาชาติกาฐมาณฑุเมื่อวันที่ 12 มีนาคม มีผู้เสียชีวิต 51 คนจากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือรวม 71 คน ผลสรุปการสอบสวนพบว่านักบินอยู่ในอาการเครียดและควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เพราะถูกนักบินผู้ช่วยที่เป็นสตรีสงสัยว่าเป็นครูฝึกสอนบินที่เก่งตามเสียงร่ำลือจริงหรือไม่ ความสงสัยดังกล่าวทำให้อดีตนักบินกองทัพอากาศรายนี้สูบบุหรี่ในห้องนักบินแบบมวนต่อมวน ร้องไห้สะอึกสะอื้น และพูดไม่หยุดเพื่อให้นักบินผู้ช่วยเชื่อในความสามารถของเขา เป็นเหตุให้นักบินผู้ช่วยซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติกาฐมาณฑุมาก่อนเสียสมาธิระหว่างบังคับเครื่องบินลงจอด ก่อนพุ่งชนรั้วกั้นอย่างแรง เครื่องบินแตกเป็นสองท่อนและไฟไหม้ นักบินทั้งสองคนรวมอยู่ในผู้เสียชีวิตด้วย
ร่างรายงานสรุปกล่าวถึงข่าวที่เกิดขึ้นหลังเครื่องบินตกไม่นานว่า สาเหตุของเครื่องบินตกอาจเป็นเพราะนักบินและหอบังคับการบินสื่อสารตัวเลขทางวิ่งที่จะให้เครื่องลงจอดไม่ตรงกันว่า หอบังคับการบินแจ้งตัวเลขทางวิ่งสลับกันจริง แต่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว เป็นเหตุเครื่องบินตกในเนปาลที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด นับจากเหตุเครื่องบินสายการบินปากีสถานอินเตอร์เนชันนัลแอร์ไลน์ตกขณะใกล้ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติกาฐมาณฑุเมื่อเดือนกันยายน 2535 ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตหมดทั้งลำ 167 คน และเหตุเครื่องบินการบินไทยตกใกล้ท่าอากาศยานเดียวกันในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน เสียชีวิตหมดทั้งลำ 113 คน.- สำนักข่าวไทย