ย่างกุ้ง 21 ก.ย.- การทำธุรกรรมธนาคารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่เริ่มเติบโตในเมียนมาร์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบนี้
เศรษฐกิจเมียนมาร์เริ่มฟื้นตัวเมื่อรัฐบาลทหารที่ปกครองประเทศมานาน 5 ทศวรรษถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลกึ่งพลเรือนในปี 2554 แต่ภาคการธนาคารยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ประชาชนร้อยละ 90 ยังไม่มีบัญชีธนาคาร ทั่วประเทศมีสาขาธนาคารเพียง 1,500 สาขา การเพิ่มสาขาให้สามารถรองรับประชาชนทั้ง 51 ล้านคนต้องใช้เวลาอีกหลายปี จึงเป็นโอกาสของการทำธุรกรรมธนาคารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัทบริการการเงินรายหนึ่งจับมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และธนาคารเอกชนแห่งหนึ่งสร้างเครือข่ายร่วมกับร้านขายของชำ 4,000 แห่งทั่วประเทศให้บริการลูกค้าฝากถอนโอนเงินผ่านโทรศัพท์ จนร้านเหล่านี้ถูกเรียกว่าตู้เอทีเอ็มเดินได้
นายฌอน เทอร์เนล เศรษฐกรชาวออสเตรเลียผู้เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลเมียนมาร์ชุดปัจจุบันเผยว่า รัฐบาลได้อนุญาตให้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารเข้าสู่ตลาดการเงินอีเล็กทรอนิกส์และให้บริการทางการเงิน การอำนวยความสะดวกให้ผู้คนทำธุรกรรมได้ทันทีและปลอดภัยจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ดังที่เกิดขึ้นในเคนยาซึ่งเปิดตัวบริการนี้เมื่อทศวรรษก่อน ปัจจุบันเข้าถึงประชากรถึงครึ่งประเทศ ชาวเมียนมาร์มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้เพียงร้อยละ 10 เมื่อ 4 ปีก่อน ขณะนี้เพิ่มเป็นร้อยละ 60 และส่วนใหญ่เป็นสมาร์ทโฟน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือจะต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมแบบนี้ เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาเคยสั่งเลิกใช้ธนบัตรหลายครั้งในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 ทำให้เงินสดหายไปจากระบบเศรษฐกิจเกือบ 2 ใน 3 เพราะผู้คนพากันนำเงินสดไปเปลี่ยนเป็นทองคำและอัญมณีเพื่อรักษาทรัพย์สินไว้.- สำนักข่าวไทย