ปักกิ่ง 7 มิ.ย.- ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า จีน อิหร่านและรัสเซียจะใช้การประชุมองค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (เอสซีโอ) ช่วงสุดสัปดาห์นี้หาทางประคองข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่สั่นคลอนหลังสหรัฐถอนตัว
การประชุมเอสซีโอครั้งที่ 18 จะจัดขึ้นที่เมืองชิงเต่า มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีนวันที่ 9-10 มิถุนายนนี้ มีสมาชิก 8 ประเทศ ประเทศสังเกตการณ์ 4 ประเทศ ประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศ และแขกรับเชิญ 4 ประเทศและองค์กร ประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานีของอิหร่านในฐานะประเทศสังเกตการณ์จะมาร่วมด้วย นับเป็นผู้นำคนที่สองของอิหร่านที่เข้าร่วมการประชุมนี้ ผู้เชี่ยวชาญความสัมพันธ์ตะวันออกกลาง วิทยาลัยวิเทศสัมพันธ์ปักกิ่งมองว่า ประธานาธิบดีโรว์ฮานีต้องการมาประเมินด้วยตนเองว่า ประเทศที่ลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 จะสามารถต้านทานแรงกดดันจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐได้หรือไม่ หากประเทศเหล่านี้ยังเดินหน้าทำธุรกิจกับอิหร่าน อิหร่านก็จะยังอยู่ในข้อตกลงต่อไป
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะสนทนานอกรอบกับประธานาธิบดีโรว์ฮานี แต่เรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านจะไม่อยู่ในวาระการประชุมอย่างเป็นทางการของเอสซีโอ เพราะประเด็นหลักของการประชุมจะเป็นเรื่องการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้า หนึ่งในนั้นคือการผลักดันโครงการเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 และการกระชับความร่วมมือปราบปรามการค้ายาเสพติด ความปลอดภัยไซเบอร์และการปราบปรามก่อการร้าย ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียให้สัมภาษณ์สื่อทางการจีนว่า เอสซีโอเริ่มต้นจากการเป็นองค์กรไม่โดดเด่น ตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาพรมแดนระหว่างจีน รัสเซียและอดีตบริวารสหภาพโซเวียต มุ่งทำงานร่วมกันในประเด็นเล็ก ๆ จนกระทั่งตระหนักว่าสามารถบรรลุบางอย่างที่ใหญ่ขึ้นได้
นายหัว หลีหมิง อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำอิหร่านเผยกับหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ว่า จีนจะไม่ผิดสัญญาเหมือนสหรัฐและจะให้ความมั่นใจว่าความสัมพันธ์จีน-อิหร่านจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ หลังจากอิหร่านประกาศเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า จะเพิ่มการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมด้วยเครื่องปั่นเหวี่ยงใหม่แต่จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ทำให้จีนต้องขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นและยึดมั่นตามข้อตกลงนิวเคลียร์.-สำนักข่าวไทย