เอ็กซิตโพลชี้ชาวไอริชหนุนยกเลิกห้ามทำแท้ง

ดับลิน 26 พ.ค.- ผลการหยั่งเสียงหน้าคูหาลงประชามติในไอร์แลนด์ชี้ว่า ชาวไอริชส่วนใหญ่สนับสนุนให้ยกเลิกมาตราในรัฐธรรมนูญที่ห้ามการทำแท้ง


ไอร์แลนด์จัดการลงประชามติเมื่อวันศุกร์ถามประชาชนว่า เห็นชอบต่อข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่ในร่างกฎหมายที่จะตามมาภายหลังใช่หรือไม่ และอาจจะมีบทบัญญัติเรื่องการยุติการตั้งครรภ์  แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 8 ปี 2526 เรื่องเด็กที่ยังไม่เกิดมีสิทธิในชีวิตเท่ากับสตรีที่ตั้งครรภ์ หรือระบุชัดเจนเรื่องการทำแท้ง 

มีผู้ลงทะเบียนลงประชามติกว่า 3.2 ล้านคน หนังสือพิมพ์ไอริชไทมส์และสถานีโทรทัศน์อาร์ทีอีหยั่งเสียงผู้ไปลงประชามติพบว่า สัดส่วนผู้ตอบว่าใช่ต่อไม่ใช่อยู่ที่ร้อยละ 68 ต่อ 32 และร้อยละ 69.4 ต่อ 30.6 ตามลำดับ เฉพาะในกรุงดับลินเสียงตอบว่าใช่สูงถึงร้อยละ 79 ทางการจะเริ่มนับคะแนนในเวลา 09.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 15.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย 


นายกรัฐมนตรีลีโอ วาราดคาร์ ซึ่งสนับสนุนให้แก้ไขกฎหมายทวีตเมื่อวานนี้ว่า ขอบคุณทุกคนที่ออกไปลงประชามติ ประชาธิปไตยกำลังทำงาน ดูเหมือนไอร์แลนด์จะสร้างประวัติศาสตร์ในวันเสาร์นี้ ขณะที่นักรณรงค์ต่อต้านการทำแท้งแสดงความผิดหวัง แต่พร้อมกับต่อสู้กับความท้าทายทุกอย่าง ด้านนางเพนนี มอร์ดอนต์ รัฐมนตรีสตรีและความเสมอภาคของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า เป็นวันประวัติศาสตร์และยิ่งใหญ่ของไอร์แลนด์ รวมทั้งเป็นวันแห่งความหวังของไอร์แลนด์เหนือด้วย ปัจจุบันไอร์แลนด์เหนือมีกฎหมายจำกัดการทำแท้งที่เข้มงวดที่สุดในสหราชอาณาจักร 

ไอร์แลนด์จัดการลงประชามติเรื่องการทำแท้งเป็นครั้งที่ 6 แล้ว มาตราที่นำมาลงประชามติวานนี้บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญหลังการลงประชามติเดือนกันยายน 2526 กำหนดให้เด็กที่ยังไม่เกิดมีสิทธิในชีวิตเท่ากับสตรีมีครรภ์ โดยจะอนุญาตให้ทำแท้งได้เฉพาะกรณีที่ชีวิตของสตรีตั้งครรภ์ตกอยู่ในอันตราย ผู้ทำแท้งโดยผิดกฎหมายมีโทษจำคุกสูงสุด 14 ปี หากผลการลงประชามติวานนี้เสียงส่วนใหญ่ตอบว่าใช่ รัฐบาลมีข้อเสนอแนะไว้ว่า สตรีจะสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ภายใน 12 สัปดาห์แรก หากเลยจากนั้นแล้วจะได้รับอนุญาตต่อเมื่อมีความเสี่ยงต่อชีวิตหรือมีอันตรายร้ายแรงทางร่างกายหรือจิตใจของสตรีโดยต้องมีอายุครรภ์ไม่เกิน 24 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ในกรณีที่ตัวอ่อนในครรภ์มีความผิดปกติถึงชีวิต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย