เท็กซัส 7 พ.ย.- ตำรวจสหรัฐเผยความคืบหน้านายเดวิน แพทริก เคลลี่ย์ มือปืนกราดยิง 26 ศพในโบสถ์รัฐเทกซัสด้วยปืน 3 กระบอกนั้น ก่อนลงมือมีเหตุทะเลาะเบาะแว้งกับแม่ยายมาก่อน
ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายที่ทราบชื่อภายหลังว่า นายเดวิน แพทริค เคลลีย์ ชาวอเมริกันวัย 26 ปี อดีตทหารที่ถูกปลดจากกองทัพอากาศ บุกใช้ปืนไรเฟิลกราดยิงไม่เลือกหน้า กลางโบสถ์เฟิร์สท์ แบพติส ในเมืองซัทเธอร์แลนด์สปริงส์ รัฐเทกซัส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ประชาชนกำลังร่วมพิธีสวดนมัสการพระเจ้าประจำสัปดาห์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย อายุระหว่าง 5 – 72 ปี และได้รับบาดเจ็บอีก 20 คน และนายเคลลีย์เสียชีวิตในระหว่างหลบหนี ล่าสุด ผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะรัฐเทกซัส เผยระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนสรุปว่า การสังหารหมู่ในครั้งนี้ไม่ได้มีมูลเหตุมาจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติ หรือความเชื่อทางศาสนา แต่เป็นความขัดแย้งภายในครอบครัว โดยคนร้ายซึ่งเป็นชาวเมืองนิวโบรนเฟลส์ รัฐเทกซัส มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับแม่ของภรรยา ซึ่งมักจะเข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่โบสถ์ที่เกิดเหตุเป็นประจำ และก่อนลงมือก่อเหตุนายเคลลีย์ได้ส่งข้อความขู่แม่ยาย ผ่านทางโทรศัพท์มือถือด้วย ส่วนผลการตรวจชันสูตรพลิกศพนายเคลลีย์เบื้องต้นในจุดที่พบศพ เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายเคลลีย์ยิงตัวตาย ก่อนที่รถยนต์ที่เขาขับหลบหนีจะเสียหลักชนหลังขับหลบหนีชาวบ้านในท้องถิ่น 2 คนที่ขับรถไล่ล่า จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า นายเคลลีย์ใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวโทรไปหาพ่อ บอกว่าเขาถูกยิงและคิดว่าเขาจะไม่รอดชีวิต สำหรับนายเคลลีย์เคยตกเป็นจำเลยศาลทหารในข้อหาทำร้ายบุตรและภรรยา ถูกลงโทษคุมขัง 12 เดือน ก่อนถูกไล่ออกจากกองทัพอากาศเพราะความประพฤติ ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนเอเชียกล่าวว่า สหรัฐเหมือนตกอยู่ในยุคมืด แต่ก็ปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้คุมเข้มการมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองมากยิ่งขึ้น โดยอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายอาวุธปืน แต่เป็นการลงมือก่อเหตุของคนโรคจิต.-สำนักข่าวไทย