คนร้ายพุ่งชน 8 ศพที่แมนฮัตตันให้การแล้ว

นิวยอร์ก 2 พ.ย.- ชายชาวอุซเบกที่ขับรถกระบะพุ่งชนคนในย่านโลว์เวอร์แมนฮัตตัน นครนิวยอร์กของสหรัฐให้การกับเจ้าหน้าที่แล้วว่า ทำไปเพราะได้แรงจูงใจจากการชมวิดีโอของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) โดยวางแผนก่อเหตุมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว 


สำนวนฟ้องหนา 10 หน้าเผยว่า นายไซฟุลโล ไซปอฟ วัย 29 ปี ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะถูกตำรวจยิงหลังก่อเหตุ ของดใช้สิทธิที่จะไม่พูดและตกลงให้การโดยไม่มีทนายแลกกับที่ไม่ต้องรับผิดทางอาญาจากคำให้การ เขารับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่า วางแผนตั้งแต่ปีก่อนและเช่ารถมาฝึกก่อเหตุเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม เขารู้สึกดีกับสิ่งที่ทำ สาเหตุที่เลือกก่อเหตุในวันฮาโลวีนเพราะเชื่อว่าถนนจะมีคนพลุกพล่าน เดิมตั้งใจจะลงมือบนสะพานบรุกลินและทางจักรยานฝั่งตะวันตกของย่านโลวเวอร์แมนฮัตตัน สำนวนคำฟ้องระบุว่า นายไซปอฟขออนุญาตติดธงไอเอสในห้องที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเบลวิว ย่านแมนฮัตตัน และได้รับแรงจูงใจก่อเหตุหลังจากดูวิดีโอนายอาบู บาการ์ อัล แบกดาดี ผู้นำไอเอสชักชวนชาวมุสลิมในสหรัฐและประเทศอื่นสนับสนุนความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ประกาศตั้งการปกครองแบบกาหลิบในซีเรียและอิรัก เจ้าหน้าที่พบภาพนิ่งและวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อของไอเอสหลายพันชิ้นในโทรศัพท์มือถือของเขา 

ด้านสำนักสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) แจ้งว่า พบตัวชายชาวอุซเบกอีกคนชื่อนายมูกัมมัดซอร์ กาดิรอฟ วัย 32 ปี ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมาสอบปากคำในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่แมนฮัตตัน หลังจากที่ได้ประกาศต้องการตัวเขาไปก่อนหน้านี้ ขณะที่รักษาการอัยการแมนฮัตตันแจ้งว่า ได้ตั้ง 2 ข้อหากับนายไซปอฟ ข้อหาแรกคือให้การสนับสนุนด้านวัสดุและทรัพยากรกับกลุ่มก่อการร้ายต่างประเทศคือกลุ่มไอเอส มีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต อีกข้อหาคือใช้ยวดยานก่อความรุนแรงและความเสียหายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน มีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย