โคลอมโบ 19 ก.ย.- จอมพลสาราธ ฟอนเซกา อดีตผู้บัญชาการกองทัพบกศรีลังกาเผยว่า ไม่ได้รับการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซาให้เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพราะกองทัพถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามกับชาวทมิฬ
จอมพลฟอนเซกา รัฐมนตรีการพัฒนาภูมิภาคเผยว่า เขาเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับวีซาให้เดินทางไปนครนิวยอร์กพร้อมกับคณะของประธานาธิบดีที่ออกเดินทางไปตั้งแต่วันอาทิตย์ เพราะกองทัพถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามกับชาวทมิฬ จอมพลฟอนเซกาซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพบกระหว่างปี 2548-2552 ยืนยันว่าไม่ได้สั่งให้ทหารทำร้ายพลเรือนในช่วงระยะสุดท้ายสงครามปราบปรามกลุ่มแยกดินแดนพยัคฆ์ทมิฬอีแลม แต่ยอมรับว่าอาจมีทหารนอกแถวส่วนน้อย จึงอยากให้เปิดการสอบสวนเรื่องนี้เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงของกองทัพต้องมัวหมอง ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งกล่าวหาผู้บัญชาการกองทัพบกคนถัดมาว่า เป็นผู้บงการและพร้อมเป็นพยานให้การเอาผิด
กองทัพศรีลังกายกกำลังบดขยี้กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมในเดือนพฤษภาคม 2552 โดยไร้การต่อต้านหลังจากกลุ่มนี้เคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 2519 และมีเสียงครหาว่ากองทัพสังหารพลเรือนชาวทมิฬไม่ต่ำกว่า 40,000 คน รัฐบาลสมัยนั้นปฏิเสธว่าไม่มีการสังหารพลเรือน ขณะที่รัฐบาลชุดปัจจุบันรับปากว่าจะเปิดการสอบสวนตั้งแต่เข้าบริหารประเทศในเดือนมกราคม 2558 แต่ก็ยังไม่เปิดการสอบสวนจนถึงขณะนี้ ยูเอ็นประเมินว่า มีคนล้มตายไม่ต่ำกว่า 1 แสนคนในช่วงที่กลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมเคลื่อนไหวนาน 33 ปี.-สำนักข่าวไทย