รู้จัก “คณะผู้เลือกตั้ง” ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

vote sign

วอชิงตัน 25 ต.ค.- ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ คะแนนเสียงของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะไม่ใช่เสียงชี้ขาดผู้สมัครที่จะเป็นผู้ชนะโดยตรง แต่เป็นเสียงของ “คณะผู้เลือกตั้ง” ที่จะลงคะแนนเลือกผู้สมัคร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไปตามเสียงของประชาชน


ข้อมูลจากเอกสารวิชาการ Academic Focus เดือนมกราคม 2560 ในคลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรของไทยอธิบายไว้ว่า คณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) เป็นระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยทางอ้อม เนื่องจากผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1787 เกรงว่า ประชาชนจะไม่มีวิจารณญาณที่ดีเพียงพอที่จะเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ดีได้ จึงสร้างระบบคณะผู้เลือกตั้ง เพื่อให้ผู้เลือกตั้ง (Elector) จากแต่ละรัฐเดินทางมาร่วมประชุมเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ขณะเดียวกันการใช้ระบบนี้ทำให้ประธานาธิบดีมีความอิสระจากรัฐสภา เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจากสมาชิกรัฐสภา ขณะที่ผู้เลือกตั้งไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง และทำหน้าที่ได้เพียงครั้งเดียว จึงไม่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้ง

US Constitution in 1787
รัฐธรรมนูญสหรัฐปี ค.ศ.1787

คณะผู้เลือกตั้งมาจากไหน ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะเลือกคณะผู้เลือกตั้งพร้อมกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี โดยที่แต่ละรัฐจะมีวิธีการเลือกแตกต่างกันไปตามกฎหมายระดับรัฐ บางรัฐอาจพิมพ์ชื่อผู้สมัครเป็นผู้เลือกตั้งในบัตรลงคะแนนเดียวกับผู้สมัครเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี บางรัฐอาจพิมพ์บัตรลงคะแนนแยกออกไป


ปัจจุบันจำนวนคณะผู้เลือกตั้งมีทั้งหมด 538 คน เป็นไปตามจำนวนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 100 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 435 คน จากทั้งหมด 50 รัฐ รวมกับคณะผู้เลือกตั้ง 3 คน จากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ที่เป็นเขตที่ตั้งพิเศษ แต่ละรัฐมีจำนวน สส.ตามสัดส่วนจำนวนประชากร แต่มี สว.รัฐละ 2 คนเท่ากัน ดังนั้นรัฐที่มีประชากรมากจึงมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมากไปตามด้วย รัฐแคลิฟอร์เนียที่มีประชากรมากที่สุด การเลือกตั้งปีนี้มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 54 คน ส่วนรัฐที่มีประชากรเบาบาง เช่น อะแลสกา ไวโอมิง มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 3 คนตามจำนวน สส.1 คน และ สว.2 คน ผู้สมัครที่จะได้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประนาธิบดีจะต้องได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งเกินครึ่งหนึ่ง คือ อย่างน้อย 270 คน

people voting in US

การจะได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) ตัดสินจากคะแนนที่ผู้สมัครได้รับจากคะแนนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (popular vote) โดยใช้ระบบ winner-take-all คือ ผู้ชนะคะแนนประชาชนในรัฐใด จะได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งทั้งหมดในรัฐนั้น ยกเว้นรัฐเนแบรสกาและรัฐเมนที่จะจัดสรรคะแนนคณะผู้เลือกตั้งตามคะแนนประชาชน

ดังนั้นผู้สมัครที่ได้คะแนนประชาชนมากที่สุด จึงอาจไม่ใช่ผู้ชนะเสมอไป ดังกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งปี 2559 ที่ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครตได้คะแนนประชาชน 63.9 ล้านคะแนน มากกว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันที่ได้ 62.1 ล้านคะแนน แต่เธอได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 232 คน น้อยกว่าทรัมป์ที่ได้ 290 คน ทรัมป์จึงเป็นผู้ชนะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45


I voted stickers

และหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งของประชาชน คณะผู้เลือกตั้งจะประชุมกันที่เมืองเอกของรัฐตนเองราวกลางเดือนธันวาคม เพื่อลงคะแนนเลือกผู้สมัคร แล้วส่งบัตรลงคะแนนไปยังรัฐสภา ซึ่งจะมีการนับคะแนนต่อหน้า สส.และสว.ในสมัยประชุมถัดไปในเดือนมกราคม และประกาศชื่อผู้ชนะเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีคนต่อไป

California Electoral College vote for Biden in 2020
คณะผู้เลือกตั้งรัฐแคลิฟอร์เนียลงคะแนนให้ไบเดน ปี 2563

อย่างไรก็ดี หลังจากพบว่าการใช้ระบบคณะผู้เลือกตั้งมีข้อบกพร่องเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเลือกตั้งปี 2563 ที่ทรัมป์อ้างว่าถูกโกงการเลือกตั้งทำให้พ่ายแพ้แก่โจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต และพยายามกดดันให้เจ้าหน้าที่ระดับรัฐเปลี่ยนแปลงผลคะแนนตามที่อัยการฟ้องร้องทรัมป์ สมาชิกรัฐสภาสหรัฐจึงได้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปการนับคะแนนผู้เลือกตั้งในปี 2565 ให้อำนาจผู้ว่าการรัฐหรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเลือก เป็นผู้ทำหน้าที่รับรองผลคะแนนคณะผู้เลือกตั้งในแต่ละรัฐก่อนส่งไปยังรัฐสภา นอกจากนี้ยังขีดเส้นตายให้ต้องรับรองผลให้เสร็จสิ้นภายใน 36 วันหลังวันเลือกตั้ง ส่วนการจะไปไกลถึงขั้นยกเลิกการใช้ระบบคณะผู้เลือกตั้ง จะทำได้ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น.-814.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

“ชูศักดิ์” ลงนามอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ประดิษฐานชั่วคราวสนามหลวง

“ชูศักดิ์” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ลงนามอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว จากวัดหลิงกวง ประเทศจีน ประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง 4 ธ.ค.67 ถึง 14 ก.พ.68 พร้อมร่วมงานวันชาติไทย ณ กรุงปักกิ่ง

จุดยืนกองทัพเรือ ปม “เกาะกูด”

นับตั้งแต่มีการโต้เถียงปม “เกาะกูด” มาระยะหนึ่ง วันนี้ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ จัดบรรยายพิเศษ “หลักกฎหมายว่าด้วยอาณาเขตทางทะเล” ที่สถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง มีกำลังพลที่เรียนหลายหลักสูตรเข้าร่วมรับฟัง รวมถึงประชาชนและสื่อมวลชน

จับ 5 ผู้ต้องหา อ้างมีโควตาลอตเตอรี่ราคาถูก เสียหาย 400 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์จับ 5 ผู้ต้องหา อ้างเป็นตัวแทนจำหน่ายมีโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาถูกพิเศษกว่าท้องตลาดทั่วไป พบผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 100 คน มูลค่าความเสียหาย 400 ล้านบาท

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก