เจนีวา 6 ก.ย. – คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนอาชญากรรมสงครามของสหประชาติกล่าววันนี้ว่า กองกำลังของรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีมากกว่า 20 ครั้งในระหว่างที่เกิดสงครามกลางเมืองในประเทศ ซึ่งรวมถึงเหตุโจมตีครั้งรุนแรงที่เมืองข่าน เชคคุน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วย
คณะกรรมาธิการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีซีเรียของสหประชาชาติ กล่าวว่า เครื่องบินของรัฐบาลซีเรียทิ้งถังบรรจุแก๊สพิษซารินโจมตีเมืองข่าน เชคคุน ในจังหวัดอิดลิบ ทำให้พลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 80 คน ก่อนหน้านี้ คณะค้นหาข้อเท็จจริงขององค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี หรือ โอพีซีดับเบิลยู ระบุว่า อาวุธที่ใช้ในการโจมตีเมืองข่าน เชคคุน เป็นแก๊สซาริน ซึ่งเป็นสารพิษทำลายประสาทที่ไม่มีกลิ่น แต่มิได้กล่าวว่า ผู้ใดอยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว แต่ในรายงานของคณะกรรมาธิการสอบสวนเกี่ยวกับกรณีซีเรียของสหประชาชาติกล่าวว่า กองกำลังของรัฐบาลซีเรียยังคงใช้รูปแบบในการใช้อาวุธเคมีในการโจมตีพลเรือนในพื้นที่ที่ฝ่ายตรงข้ามยึดครอง โดยครั้งรุนแรงที่สุดเกิดเป็นการใช้แก๊สซารินโจมตีที่เมืองข่าน เชคคุน ในจังหวัดอิดลิบ พร้อมกันนั้นยังประกาศว่า การกระทำดังกล่าวเป็นอาชญากรรมสงคราม คณะสอบสวนของสหประชาชาติยังกล่าวในรายงานล่าสุดด้วยว่า จนถึงขณะนี้ พบการใช้อาวุธเคมีในการโจมตีในซีเรียมาแล้ว 33 ครั้ง โดย 27 ครั้งดำเนินการโดยรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดระหว่าง 1 มีนาคมถึง 7 กรกฏาคม แต่อีก 6 ครั้งก่อนหน้านั้น ยังไม่สามารถระบุผู้ลงมือก่อเหตุได้.-สำนักข่าวไทย