วอชิงตัน 25 ม.ค.- องค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐหรือเอฟเอเอ (FAA) ยกเลิกคำสั่งจอดเครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ 9 แล้ว แต่ห้ามโบอิงขยายการผลิตเครื่องบินตระกูลแม็กซ์ ซึ่งเป็นรุ่นขายดีที่สุด หลังจากมีประเด็นด้านคุณภาพที่ไม่สามารถยอมรับได้หลายเรื่อง
เอฟเอเอสั่งจอดโบอิง 737 แม็กซ์ 9 ตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นปิดประตูเครื่องบินของสายการบินอะแลสกาแอร์ไลน์หลุดกลางอากาศเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 โดยจะอนุญาตให้ขึ้นบินได้อีกครั้งทันทีที่เสร็จสิ้นการตรวจสอบ ถือเป็นข่าวดีสำหรับอะแลสกาแอร์ไลน์และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ซึ่งเป็น 2 สายการบินในสหรัฐที่ใช้เครื่องบินรุ่นนี้และต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายพันเที่ยว เครื่องบินรุ่นนี้ของทั้ง 2 สายการบินจะขึ้นบินได้อีกครั้งในวันศุกร์และวันอาทิตย์ตามลำดับ
ขณะเดียวกันเอฟเอเอจะไม่อนุมัติคำขอของโบอิงเรื่องขยายการผลิตหรือเพิ่มสายการผลิตของ 737 แม็กซ์ จนกว่าโบอิงจะแก้ไขประเด็นการควบคุมคุณภาพที่พบในระหว่างการตรวจสอบจนเป็นที่น่าพอใจ เพราะเป็นประเด็นที่ไม่สามารถยอมรับได้ รอยเตอร์ระบุว่า คำสั่งนี้จะมีผลในวงกว้างต่ออุตสาหกรรมการบิน เนื่องจากโบอิงกำลังหาทางเพิ่มการผลิตเครื่องบินตระกูลแม็กซ์ที่มีทางเดินแถวเดียว เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดเครื่องบินเจ็ต และเพื่อแข่งขันกับแอร์บัสของยุโรป ซึ่งหมายถึง โบอิง 737 แม็กซ์ 8 ที่มีลำตัวเล็กลงและจำหน่ายได้มาก เป็นแหล่งรายได้สำคัญของโบอิงและซัพพลายเออร์หลายราย
โบอิงแจ้งเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ว่า จะผลิตเครื่องบินตระกูลแม็กซ์ให้ได้เดือนละ 38 ลำภายในปี 2566 ส่วนตารางการผลิตหลักที่รอยเตอร์รายงานเมื่อเดือนธันวาคมระบุว่า โบอิงวางแผนจะเพิ่มการผลิตในปี 2567 เป็นเดือนละ 42 ลำในเดือนกุมภาพันธ์ และ 47.2 ลำในเดือนสิงหาคม จากนั้นจะเพิ่มเป็นเดือนละ 52.5 ลำภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และ 57.7 ลำในเดือนตุลาคม 2568.-814.-สำนักข่าวไทย