สหรัฐ 16 พ.ค.-ผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงในโลกไซเบอร์ ระบุว่ามีหลักฐานทางเทคนิคที่บ่งชี้ว่า เกาหลีเหนืออาจอยู่เบื้องหลังการปล่อยไวรัส “Wannacry” โจมตีคอมพิวเตอร์กว่า 3 แสนเครื่องใน 150 ประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ ในการปลดล็อกข้อมูลทั้งหมด จนสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล
รายงานระบุว่า รหัสบางอย่างในซอฟแวร์ Wannacry ที่ใช้โจมตีในช่วงแรกๆเหมือนกับที่กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus ของเกาหลีเหนือใช้งาน แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะรีบฟันธงว่า เกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีในโลกไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา อย่างไรก็ตาม การโจมตีเริ่มเบาบางลงแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญก็จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยึดถือกฎหมายของประเทศต่างๆทั่วโลกรวมถึงสหรัฐ
ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า ผู้โจมตีอาจมาจากประเทศต่างๆ หรืออาจเป็นกลุ่มอาชญากรในโลกไซเบอร์ เวลานี้บริษัทความมั่นคงในโลกไซเบอร์ของรัสเซีย คือ Symantec and Kaspersky กำลังศึกษารหัสลับนี้อย่างละเอียด และขอให้ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกมาร่วมกันวิเคราะห์ด้วย เพราะแฮกเกอร์หรือนักเจาะระบบ ใช้วิธีการแยบยล จนยากต่อการพิสูจน์ติดตามได้ง่ายๆ
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของสหรัฐและยุโรป ระบุว่าเวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าใครอยู่เบื้องหลังการโจมตีในครั้งนี้ แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าผู้ต้องสงสัยอาจเป็นเกาหลีเหนือ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียกล่าวว่า ตนเชื่อตามที่บริษัทไมโครซอฟท์ระบุว่า ต้นตอของไวรัสร้ายนี้มาจากสำนักงานความมั่นคงของสหรัฐหรือ NSA ที่ไปสร้างเครื่องมือ แฮกข้อมูลส่วนตัวของประชาชน แต่กลับถูกแฮกเกอร์ที่มีฝีมือเหนือชั้นกว่านำเครื่องมือแฮกนี้ไปใช้ประโยชน์ในการสร้างมัลแวร์เรียกค่าไถ่ Wannacry ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วโจมตีไปทั่วโลก ขณะเดียวกันเว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยน ของอังกฤษ รายงานว่าบริษัทดิสนีย์กำลังถูกมัลแวร์ Wannacry เล่นงานโดยโจมตีไฟล์ภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the carribian Dead men tell no tales ภาค 5 หนังผจญภัยฟอร์มยักษ์ พร้อมขู่เรียกเงินค่าไถ่ โดยหากไม่ได้เงินก็จะปล่อยหนังตัวอย่างออนไลน์ทันที ทั้งนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดลงโรงวันที่ 25 พค.นี้ โดยทางดิสนีย์ยืนยันจะไม่จ่ายเงินค่าไถ่ โดยขณะนี้กำลังหารือกับทีมสอบสวนของสหรัฐอยู่ .-สำนักข่าวไทย